จ่อเรียก 135 รีสอร์ทรุกป่าเขาค้อคืนพื้นที่ พบสร้างใหม่ 93 แห่ง เตรียมดำเนินการเจรจา

เมื่อวันที่ 24 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายถึงความคืบหน้าชุดปฏิบัติการ(ชป.)ซึ่งประกอบด้วย ทหาร ป่าไม้และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่สำรวจรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศจำนวน 135 ราย ที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาปางก่อ-วังชมพู และอยู่นอกแปลงที่ดินราษฎรอาสาสมัคร(รอส.) ใน 4 ตำบลของอ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ได้แก่ ต.เขาค้อ ต.ริมสีม่วง ต.สะเดาะพลและต.หนองแม่นา เพื่อเตรียมเจรจาขอคืนพื้นที่ป่า และหากไม่ยินยอมก็เตรียมใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมายด้วยการดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่าสงวนฯ อย่างไรก็ตามจากการสำรวจของชุดปฏิบัติดังกล่าว ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยทั้ง 135 ราย นอกจากนี้ยังพบมีการสร้างบ้านพักรีสอร์ทนอกแปลงรอส.เพิ่มเติมอีก 93 แห่ง ซึ่งล่าสุดทางชุดปฏิบัติการเตรียมเชิญผู้ประกอบการเจ้าของบ้านพักและรีสอร์ทเหล่านี้เจรจาในราวต้นสัปดาห์หน้าแล้ว

แหล่งข่าวจากชุดปฏิบัติการกล่าวว่า ในการลงสำรวจครั้งนี้เพื่อยืนยันตำแหน่งและแนวเขตพื้นที่ให้ชัดเจน โดยให้ทางผู้ประกอบการหรือเจ้าของหรือผู้ดูแลเป็นผู้นำชี้แนวเขต ซึ่งต.เขาค้อมี 40 ราย ต.ริมสีม่วง 29 ราย ต.สะเดาะพง 45 แห่ง และต.หนองแม่นา 21 แห่ง โดยสำรวจครบ 100%ไปเรียบร้อยแล้วเม่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังพบรีสอร์ทและบ้านพักมีการก่อสร้างต่อเติมใหม่เพิ่มเติมอีกจำนวน 93 แห่ง ได้แก่ ต.เขาค้อเพิ่ม 30 ราย ต.ริมสีม่วง 26 รายและต.หนองแม่นา 37 ราย ส่วนขั้นตอนต่อไปจะเริ่มทยอยเชิญผู้ประกอบการ 135 ราย มาเจรจาแบบนุ่มนวลเพื่อขอคืนพื้นที่และขอให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเองเพราะหลักฐานชัดเจนว่าอยู่ในพื้นที่ป่า โดยคาดการณ์จะเริ่มเดินหน้าในราวสัปดาห์เป็นต้นไป สำหรับในส่วนของรีสอร์ทและบ้านพัก 93 รายที่พบเพิ่มเติมใหม่ ก็จะดำเนินการในภายหลังตามแนวทางเดียวกับ 135 รายเช่นกัน

สำหรับสาเหตุที่มีการดำเนินการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีจี้ให้ใช้ ม.44 ปราบนายทุนบุกรุกที่ดินบนเขาค้อ โดยหยิบยกถึงการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมระหว่างพื้นที่ภูทับเบิกและพื้นที่เขาค้อ จนทำให้กรมป่าไม้ จังหวัดเพชรบูรณ์และกองพลทหารม้าที่ 1 จับมือร่วมกันเพื่อแก้ไขจัดระเบียบที่ดิน รอส.บนเขาค้อ ที่ทางกองทัพภาคที่ 3 ขอใช้จากกรมป่าไม้เนื้อที่ 1.2 แสนไร่เศษ แต่ภายหลังถูกเปลี่ยนมือโดยมีการก่อสร้างรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศหรูจนเต็มพื้นที่ ทำให้หน่วยงานภาครัฐทั้ง 3 มีมติให้ดำเนินการสำรวจ รอส. และการครอบครองการใช้ประโยชน์ที่ดินทั้งในและนอกแปลง รอส.ที่อยู่ในเขตป่าดังกล่าว

กระทั่งพบมีรีสอร์ทบ้านพักตากอากาศอยู่แปลง รอส.จำนวน 467 รายและอยู่นอกแปลง รอส. 135 ราย กระทั่งในการประชุมของคณะเจ้าหน้าที่ที่กรมป่าไม้เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2560 มีการสรุปผลกรมป่าไม้จะรับคืนพื้นที่ในเขตพื้นที่เขาค้อที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ทั้งหมด และให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกให้แล้วเสร็จในราวเดือนเมษายน ปี 2561 นี้ โดนกรมป่าไม้จะรับคืนในราวเดือนพฤษภาคม ปี 2561

นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้ดำเนินการต่อกลุ่มต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ อ.เขาค้อให้ชัดเจน โดยยกกรณีการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิกมาเทียบเคียง และเนื่องจากปฏิบัติการในครั้งนี้มีผู้บุกรุกจำนวนมากที่ประชุมเห็นสมควรให้ทยอยดำเนินการ ไม่ใช่เปิดยุทธการใหญ่เหมือนภูทับเบิก ขณะเดียวกันยังหน่วยราชการและหน่วยงานรัฐ 83 แห่งบนเขาค้อ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม่ให้ดำเนินการขอใช้พื้นที่ต่อกรมป่าไม้โดยตรงให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ปี 2560 ที่ผ่านมา

Advertisment

 

ที่มา  มติชนออนไลน์