“เชียงราย” ตั้งเป้าประมูลทะเบียนรถปี’61 กว่า 14 ล้าน

“เชียงราย” ตั้งเป้าประมูลทะเบียนรถปี’61 กว่า 14 ล้าน พร้อมนำเข้ากองทุนรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 มกราคม 2561) ที่วัดห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆาตรวาส ในการนำป้ายทะเบียนรถใหม่ ประเภทรถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่ง รถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ 4 ประตู หมวดอักษรนำหน้าด้วยอักษร “กย” จำนวน 301 หมายเลข ประกอบพิธีกรรมเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนนำไปจัดประมูล ณ ห้องดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย อ.เมืองเชียงราย ระหว่างวันที่ 3-4 ก.พ. 2561 นี้ต่อไป โดยมีพระอาจารย์พบโชค ตัสสะวังโส เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง นำคณะสงฆ์ประกอบพิธีกรรมสวดมนต์และภาวนาเพื่อความเป็นสิริมงคล

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การจัดประมูลป้ายครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 10 ของ จ.เชียงราย โดยเป็นป้ายที่มีพื้นภาพที่ออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย เป็นภาพภูชี้ฟ้า ดอยนางนอน ทะเลหมอก และหอนาฬิกา ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามของ จ.เชียงราย ส่วนหมายเลขก็เป็นหมวด กย ซึ่งตัวเลขต่างๆ ที่ระบุบนป้ายถือเป็นเอกลักษณ์ที่มีมูลค่า โดยผู้ที่ประมูลได้เป็นเจ้าของสามารถนำไปติดรถ ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้เป็นของขวัญ ฯลฯ ได้ตามเอกสิทธิ์ โดยหมวดอักษร กย หมายถึง “เกียรติยศ สูงส่ง ธุรกิจยืนยง”

ทั้งนี้รายได้จากการประมูลนำเข้าเป็นกองทุนรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ในการใช้รถใช้ถนนของกรมขนส่งทางบก (กปถ.) ซึ่งจะนำไปใช้เป็นงบประมาณรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุในกิจกรรมต่างๆ สำหรับการประมูลในปีนี้ คาดว่าจะได้รายได้จากการประมูลประมาณ 14 ล้านบาท

Advertisment

ด้านนายสตวัน มะโนเครื่อง ขนส่งจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า รายได้ที่ได้ กองทุนรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุจะนำไปใช้ประโยชน์หลากหลาย เช่น จัดกิจกรรมในโครงการต่างๆ เพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน จัดซื้ออุปกรณ์สำหรับผู้พิการจากอุบัติเหตุทางถนน ฯลฯ ทั้งจึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูล โดยสามารถสอบถามได้ที่ 1584 หรือ 0-5315-2077 ต่อ 108-9 ได้

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการจัดประมูลหมายเลขทะเบียนรถที่ จ.เชียงราย ถือได้ว่าจัดขึ้นติดต่อกันมาหลายปี และปีที่ผ่านๆ มามีการตั้งเป้าและจัดเก็บรายได้ตั้งแต่ 30-40 ล้านบาท และจำนวนได้ลดลงเรื่อยมาจนถึงระดับประมาณ 15-20 ล้านบาท กระทั่งปีนี้ได้ลดระดับลงเหลือตั้งเป้าเอาไว้ประมาณ 14 ล้านบาทดังกล่าว