“นครศรีธรรมราช” ผงาดเวทีโลก ชูโครงการเด่น ยกระดับคุณภาพชีวิต

กณพ เกตุชาติ
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

ในการประชุมนายกเทศมนตรีสหประชาชาติ Forum of Mayors 2023 ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งสหประชาชาติในยุโรป (United Nations Economic Commission for Europe-UNECE) แห่งองค์การสหประชาชาติ หรือ UN นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพียงหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ที่ได้รับเทียบเชิญให้เข้าร่วมการอภิปรายแลกเปลี่ยนในการบริหารจัดการเมือง

พร้อมนายกเทศมนตรีอีกหลายประเทศทั่วโลก ในประเด็นการบริหารจัดการเมืองอย่างชาญฉลาด ด้วยการนำเทคโนโลยีมาผนวกการบริหาร โดยมีพลเมืองมีส่วนร่วมจนสามารถคว้ารางวัลระดับโลกได้

การอภิปรายของนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชในครั้งนี้ เกี่ยวกับโครงการร้องทุกข์ออนไลน์ โรงพยาบาลติดล้อเจาะเลือดหน้าบ้าน และห้องเรียนโลกเสมือนของโรงเรียนสังกัดเทศบาล ผลงานจากความร่วมมือร่วมใจของทีมงานเทศบาล ทีมแพทย์พยาบาลเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเทศบาล รวมถึงคุณครูโรงเรียนเทศบาล และพร้อมขยายความร่วมมือกับนานาชาติ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและการลงทุนต่อไปในอนาคต

“กณพ เกตุชาติ” นายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประชุม Forum of Mayors ประจำปี 2023 เมืองนครศรีธรรมราชได้รับเกียรติอย่างสูงจากองค์การสหประชาชาติ เพื่อนำผลงานไปถ่ายทอดให้กับเมืองอื่น ๆ ในระดับนานาชาติต่อไป ซึ่งในภูมิภาคอาเซียนมีตัวแทนจาก 2 เมือง คือ เมืองนครศรีธรรมราช ประเทศไทย และเมืองนากา ประเทศฟิลิปปินส์

“ผมได้แนะนำเมืองนครศรีธรรมราชและนำโครงการเด่นไปนำเสนอ รวมถึงปัจจัยความสำเร็จที่มาจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชน และค่อนข้างได้รับการตอบรับอย่างตื่นเต้น หลังจากนั้นก็มีหัวข้อที่ได้รับความสนใจ คือ การนำเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงหรือมัลติเวิร์ส มาใช้ในโรงเรียนเทศบาลอย่างจริงจังทั้ง 10 โรงเรียน

ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยม ถือเป็นความภาคภูมิใจของเทศบาล และเป็นผลงานของทีมงานทุกคน ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว นักลงทุน”

บูรณาการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ

สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราชในอนาคตอีก 2-3 เดือน จะมีไฟลต์บินจากต่างประเทศมาถึงสนามบินได้โดยตรง ปัจจุบันมีหลายประเทศที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานในพื้นที่ เช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเรียนรู้กันระหว่างเมือง หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันผ่าน ZOOM กับการทำนาของจอร์แดน กรีซ เยอรมนี เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมตัวเมืองนครศรีธรรมราช ที่ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้คู่กับการเตรียมการและความร่วมมือพี่น้องประชาชน ทำให้น้ำท่วมน้อยลง ลดผลกระทบความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ และเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมา

โดยติดตั้งกล้องวงจรปิดในลำคลองบนภูเขาที่น้ำไหลเข้าเมือง และตามจุดต่าง ๆ ในตัวเมืองทั้งหมด ประชาชนสามารถดูภาพในกล้องวงจรปิดได้แบบ real time จะได้รู้ทันทีว่าน้ำมีมากน้อยแค่ไหน คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงจะได้เตรียมตัวรับมือ โดยทุกคนจะได้รับข้อมูลอย่างเท่าเทียมกันพร้อมกับเทศบาล ส่งข้อมูลเข้ามือถือของทุกคน

“เราไม่ต้องออกรถแห่หรือออกวิทยุกระจายข่าว ทุนคนในพื้นที่รู้พร้อมกับเทศบาล รู้ระดับน้ำว่ามันขึ้นสูงแค่ไหน แล้วใครมีหน้าที่ทำอะไรก็แยกย้ายไปทำตามนั้น เรามีแผนเผชิญเหตุพิมพ์เป็นแผ่นพับแจกพี่น้องประชาชน 2 ปีที่ดำเนินงานมาสามารถป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมได้ ถือว่าเป็นการผสมผสานกันระหว่าง 1.เทคโนโลยี 2.แผนงาน และ 3.ความร่วมมือของทุกคนในพื้นที่”

นอกจากปัญหาเรื่องน้ำท่วมก็มีปัญหาเรื่องน้ำแล้งด้วย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำประปาขาดแคลนในหน้าแล้ง ด้วยการบริหารจัดการแหล่งน้ำดิบ ผสมผสานกันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยติดตามเรื่องคุณภาพน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด แต่มีบางจุดที่ท่อเก่า ท่อแตก ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง และต้องทยอยเปลี่ยนไปทีละส่วน หากอยากเปลี่ยนครั้งเดียวคงต้องให้ทางภาครัฐช่วย

โครงการเด่นการันตีรางวัล

“กณพ” บอกว่า โครงการร้องทุกข์ออนไลน์ เป็นระบบ LINE OA ในขณะนี้มีสมาชิก 58,000 คน แก้ไขปัญหาให้ประชาชนไปแล้ว 15,800 เรื่อง อาทิ ปัญหาเรื่องของถนนหนทาง การเก็บขยะชิ้นใหญ่ ขอยืมอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีระบบจองคิวนั่งรถชมเมือง ทำบัตรประชาชน เข้าสวนสัตว์ดูพิพิธภัณฑ์ สามารถปรับการทำงานตามความต้องการของประชาชนได้

และด้านบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ 1.การถ่ายรูปไฟฟ้าสาธารณะที่ดับส่งเข้ามาในระบบให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการแก้ไขทันที 2.ซ่อมแซมทางเท้า 3.ซ่อมท่อแตก 4.รายงานขยะตกค้าง

“โครงการนี้เราได้รับรางวัลระดับประเทศจากทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และจากสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนในระดับนานาชาตินั้น เราได้รับรางวัลจากกระทรวงคมนาคมของประเทศเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว”

นอกจากนี้ ยังมีโครงการสัตวแพทย์ออนไลน์ ขึ้นทะเบียนโดยใช้แพลตฟอร์มของตัวเอง เพื่อให้เจ้าของหมาและแมวขึ้นทะเบียนจองคิวในการทำหมันแล้วก็ฉีดวัคซีน ช่วยประหยัดงบประมาณของเทศบาลในการออกไปเดินสำรวจได้อย่างมาก

ปัจจุบันลงทะเบียนแล้วกว่า 4,600 ตัว ซึ่งแต่ละตัวจะมีที่อยู่ตาม GPS ของบ้าน ทำให้โรคพิษสุนัขบ้าในเมืองลดลง เคสหมากัดในห้องฉุกเฉินของเทศบาลก็ลดลงไปด้วย และโครงการนี้ก็ได้รับรางวัลระดับประเทศจากทางกระทรวงดิจิทัลฯเช่นกัน

ถัดมาคือโครงการใช้เทคโนโลยีโลกเสมือน AR (virtual world) และ VR (virtual reality) นำไปใช้ในโรงเรียนเทศบาลตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยม เพื่อให้เด็กกระตือรือร้นสนใจมาโรงเรียนมากขึ้น และแบบสอบถามความพึงพอใจสูงมาก เด็กนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ในการเรียนดีขึ้น

“เราทดสอบเด็กประถมกับเด็กมัธยม แบ่งเป็น 2 กลุ่มในระดับความเก่งเท่ากัน กลุ่มแรกเรียนเรื่องหัวใจโดยใช้สื่อปกติใช้สมุดหนังสือปกติ เรียนเสร็จแล้วทำข้อสอบ กลุ่มที่ 2 เรียนเรื่องหัวใจโดยใช้สื่อ AR และ VR สามารถมองเห็นชัดเจนมากกว่า และชิ้นส่วนตรงไหนเรียกว่าอะไรจะลอยขึ้นมา

เมื่อทั้ง 2 กลุ่มใช้เวลาเรียนเท่ากัน หลังจากนั้นมาทำข้อสอบ พบว่ากลุ่ม 2 คะแนนสูงกว่าอย่างชัดเจน ทั้งในชั้นประถมในชั้นมัธยม โครงการนี้ผู้ปกครองสามารถมีส่วนร่วมในบทเรียนของลูกหลานได้โดยการสแกน QR code ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ”

นอกจากนี้ “กณพ” ยังกล่าวถึงโครงการห้องเรียนข้างห้องนายก สำหรับเด็กด้อยโอกาสที่มีปัญหา หรือเด็กสมาธิสั้นพฤติกรรมก้าวร้าวต่าง ๆ ขอให้มาเรียนที่ข้างห้องนายกเทศมนตรี ซึ่งคุณครูจะช่วยดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่รถตู้รับส่ง อาหารการกิน โดยจะแบ่งการสอนไปตามลักษณะปัญหาของเด็กแต่ละคน ทำให้เด็กกลุ่มนี้เปลี่ยนพฤติกรรมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น