2กระทรวงปลุกศก.9จังหวัด ทุ่ม3.5พันล้านจัดอีเวนต์ใหญ่

2 กระทรวง “วัฒนธรรม-อุตสาหกรรม” เตรียมชง ครม.ของบฯกลาง 3,500 ล้าน จัดอีเวนต์ใหญ่ด้านศิลปะและอาหาร “Creative Economy & Creative Art” ปูพรม 9 จังหวัด ต้นปี 2563 หวังดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศ 3 ล้านคน คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท

นายฐาปนา บุญยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงวัฒนธรรมอยู่ระหว่างจัดทำแผนขับเคลื่อนโครงการตามแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) และเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากวัฒนธรรม (Creative Art) โดยร่วมมือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงสมาคมการผังเมืองไทยในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ใน 7 จังหวัด ได้แก่ กทม. เชียงใหม่ นครสวรรค์ อุดรธานี สระบุรี กระบี่ และชลบุรี และ 2 จังหวัดเครือข่ายคือชัยนาทและอุทัยธานี โดย 2 กระทรวงเตรียมเสนอของบประมาณกลางจากคณะรัฐมนตรี รวมวงเงิน 3,500 ล้านบาท ในเดือนธันวาคม 2562 และเตรียมจัดกิจกรรมในเดือนมีนาคม 2563 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างหนัก และให้เกิดการสร้างงานต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่ากิจกรรมต่าง ๆ จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าร่วมงาน คาดว่าจะเกิดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเกิดเศรษฐกิจต่อเนื่องอีก 2 หมื่นล้านบาท

โดยงาน Creative Art มีกระทรวงวัฒนธรรมเป็นแม่งานหลัก จัดงานใน 4 จังหวัด ได้แก่ กทม.บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ เชียงใหม่ นครสวรรค์ และพัทยา โดยรูปแบบการจัดงานจะนำจุดเด่นของเมืองศิลปวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัดมานำเสนอในรูปแบบดิจิทัล โดยแผนงานทั้งหมดผ่านความเห็นชอบจากนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว เช่น กทม. ใช้ชื่องาน Bangkok International Digital Art and Design (BIDD 2020) จัดงานในเดือนมีนาคม 2563 ใช้งบฯ 500 ล้านบาท ใช้พื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์จัดงานเชียงใหม่ ใช้ชื่องาน Chiangmai Creative Mind 2020 จัดงานเดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2563 งบฯ 500 ล้านบาท กำหนดจัดงานในเขตเมืองเก่า โดยใช้ระบบดิจิทัลมาถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรม ชุมชนสร้างสรรค์ และกิจกรรมเชิงศิลปะ

นครสวรรค์ ใช้ชื่องาน Nakhonsawan international Art & Eat จัดงานเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2563 งบฯ 500 ล้านบาท พื้นที่จัดงานตั้งแต่ตลาดปากน้ำโพ พาสาน ถึงท่าข้าวกำนันทรง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ จะมีจังหวัดชัยนาทและอุทัยธานีมาขอจัดกิจกรรมเชื่อมโยงด้วย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน และชลบุรี จะจัดงานเฉพาะพัทยา ใช้ชื่องานว่า Pattaya Art & Entertainment

นายฐาปนากล่าวต่อไปว่า ในส่วนของงาน Creative Economy มีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นแม่งานหลัก ร่วมกับบริษัทพัฒนาเมืองของแต่ละจังหวัด หน่วยราชการ และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ดำเนินการภายใต้ธีม Thailand Food Charter มี 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครสวรรค์ อุดรธานี สระบุรี และกระบี่ ใช้งบฯแห่งละ 250 ล้านบาท รวม 1,250 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้จะใช้งบฯจัดกิจกรรมด้านอาหารระยะสั้น และวางแผนสร้างโครงสร้างพื้นฐานอาคาร เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารท้องถิ่น และศูนย์กลางการจัดจำหน่ายอาหารท้องถิ่น เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างแลนด์มาร์กในการท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้และอาชีพให้กับเกษตรกรในแต่ละชุมชน

ยกตัวอย่าง เชียงใหม่ ใช้พื้นที่ในเขตคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 15 ไร่ คาดเงินสะพัด 4.8 พันล้านบาท ส่วนอุดรธานี ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 10 ไร่ คาดเงินสะพัด 2.4 พันล้านบาท ด้านนครสวรรค์ ใช้พื้นที่ของท่าข้าวกำนันทรง 70 ไร่ คาดเงินสะพัด 1.2 พันล้านบาท และสระบุรี ใช้พื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริเวณบ้านนา-แก่งคอย 20 ไร่ คาดเงินสะพัด 1.2 พันล้านบาท และกระบี่ ใช้พื้นที่บริเวณสวนสาธารณะกระบี่ 10 ไร่ คาดว่าเงินสะพัด 2.4 พันล้านบาท

รศ.ดร.ณัฐวุฒิ ปรียวนิตย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เปิดเผยว่า รัฐบาลตั้งใจนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากรายได้ปานกลาง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยนำนโยบายประเทศไทย 4.0 มุ่งผลักดันการพัฒนาด้านนวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัล ควบคู่ไปกับการรักษาทุนทางวัฒนธรรมไว้ให้ยั่งยืน มหาวิทยาลัยศิลปากรจึงได้จับมือกับกระทรวงวัฒนธรรมและบริษัทพัฒนาเมืองในแต่ละจังหวัด จัดงาน Creative & Art โดยรวมเอาจุดเด่นของศิลปวัฒนธรรมมานำเสนอในรูปแบบของดิจิทัล ใน 3 จังหวัด ใช้งบประมาณส่วนกลาง 1,500 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในแต่ละจังหวัดมากกว่า 1,500 ล้านบาท นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน