
กอนช. เตือน 12 จังหวัดภาคใต้เสี่ยง น้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 21-24 มี.ค. 65 เหตุจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน กรมชลประทานพร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด
วันที่ 21 มีนาคม 2565 รายงานข่าวระบุ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) รายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์สภาพอากาศ และปริมาณฝนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลนในช่วงวันที่ 20-22 มีนาคม 2565 คาดว่าจะเคลื่อนตัวทางทิศเหนือเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน และเข้าปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมา
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- วิกฤตหรือไม่วิกฤต คำตอบผู้ว่าการ ธปท.
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงแต่จะทำให้ลมที่พัดเข้าหาศูนย์กลางพายุมีกำลังแรงขึ้น และพัดปกคลุมทางด้านตะวันตกของประเทศไทยส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 21 – 24 มีนาคม 2565 บริเวณจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง กระบี่ พังงา ตรัง ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ
2. ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พร้อมพิจารณาความเหมาะสมในการระบายน้ำในลำน้ำ/แม่น้ำให้สอดคล้องกับการขึ้น – ลงของระดับน้ำทะเล
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
4. ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน สั่งโครงการชลประทานในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือน้ำหลาก ในช่วงวันที่ 21 – 22 มีนาคม 2565 หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลาก
โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่คอยติดตามและตรวจสอบอาคารชลประทานให้มีสภาพพร้อมใช้งานรวมถึงบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม พร้อมทั้งปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)
ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา รวมถึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลาก และจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำ ประจำจุดพื้นที่เสี่ยง ให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที