แอร์ 6 หมื่นล้านเดือดรับร้อน ขนสินค้าใหม่-โปรแรงแย่งมาร์เก็ตแชร์

ตลาดแอร์ 6 หมื่นล้านเดือดรับหน้าร้อน คาดตลาดโต 6% เผยต้นมีนาฯระเบิดสารพัดแคมเปญจูงใจลูกค้าสู้เศรษฐกิจ “ไดกิ้น” เดินเกมบุกหัวเมืองต่างจังหวัด ด้าน “มิตซูบิชิ” ชูบริการหลังการขายแข่ง อัพเกรดบริการเพิ่มออนไลน์-ซ่อมด่วน “พานาโซนิค” สบช่องเป็นสปอนเซอร์โอลิมปิก จัดหนัก อัดครอสโปรโมชั่น-ผ่อน 0% 24 เดือน ส่วน “ซัมซุง” เบนเข็มชูช่างแอร์เป็นอินฟลูเอนเซอร์ช่วยเชียร์สินค้า “โตชิบา” ประกาศคืนสังเวียนขนแอร์ใหม่ 14 รุ่น ลงสนาม แย่งมาร์เก็ตแชร์

แม้จะย่างเข้าสู่ปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้ว แต่สภาพอากาศในหลายพื้นที่ยังค่อนข้างเย็น เมื่อประกอบกับปัจจัยลบต่าง ๆ ในปีนี้ที่ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจ การระบาดของไวรัสและอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้แบรนด์แอร์หลายรายเริ่มขยับปรับกลยุทธ์รับมือ ไม่ว่าจะเป็นเลื่อนจังหวะการทำตลาดไปยังเดือนมีนาคม เพิ่มจุดขายด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขาย ฟังก์ชั่นสมาร์ท ฟอกอากาศ รวมถึงโปรโมชั่น กิจกรรมทางการตลาด มาจูงใจให้ผู้บริโภคยอมควักกระเป๋า

มีนาคมดีเดย์บุกตลาด

นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ที่ฉายภาพตลาดแอร์ปี 2563 นี้ว่า สภาพอากาศยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของตลาดเครื่องปรับอากาศ หากอากาศร้อนจะส่งผลให้ตลาดแอร์บ้านและพาณิชย์ ที่มีมูลค่าราว ๆ 6 หมื่นล้านบาท อาจเติบโตได้ประมาณ 5-10% แต่หากไม่ร้อน ตลาดในภาพรวมอาจจะทรงตัว เนื่องจากอิทธิพลของสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ และการแข่งขันราคาที่ยังมีความรุนแรง อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับสภาพที่จะเกิดขึ้น บริษัทได้ปรับจังหวะการทำตลาด ด้วยการจะเริ่มต้นลอนช์โฆษณาและแคมเปญต่าง ๆ ในเดือนมีนาคมที่คาดว่าสภาพอากาศจะเริ่มร้อนขึ้นคล้าย ๆ กับปีที่แล้ว ประกอบกับภัยแล้งที่มีแนวโน้มว่าจะยาวนานขึ้นจะทำให้หน้าขายยืดยาวออกไปนานกว่าปกติ จึงเท่ากับว่าจะไม่เสียโอกาสในเดือนกุมภาพันธ์

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะมุ่งโฟกัสลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองซึ่งมีโอกาสจากงานโครงการทั้งรัฐและเอกชน เช่นเดียวกับลูกค้าครัวเรือนที่ยังมีแอร์เพียง 10% เท่านั้น ด้วยการชูจุดขายด้านประหยัดพลังงาน-พื้นที่-ค่าบำรุงรักษา ตอบโจทย์ทั้งโรงงาน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ โดยตั้งเป้ายอดขายปีบัญชี 2562 (เม.ย. 62-มี.ค. 63) เติบโต 15% หรือประมาณ 1.42 หมื่นล้านบาท และยอดขายปีบัญชี 2563 ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท

Advertisment

มิตซูฯชูบริการหลังการขายแข่ง

นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ระบุว่า คาดว่าตลาดแอร์ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 6% โดยสภาพอากาศที่ร้อนและปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างดีมานด์แอร์ที่มีฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน เย็นเร็ว และมีฟิลเตอร์กรองฝุ่น ให้เติบโตมากขึ้น เพื่อรับกับโอกาสเติบโตในปีนี้ จึงมุ่งชูจุดขายที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งฟังก์ชั่นกรองอากาศ PM 2.5 และฟังก์ชั่นเย็นเร็ว ในรุ่น JS Series และรุ่น KS Series พร้อมเสริมด้วยบริการหลังการขายที่อัพเกรดใหม่เพื่อย้ำความเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็น hot line 1325 นอกจากนี้ ยังจะขยายเวลาทำการเป็นทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 08.30-19.00 น. รวมถึงการเพิ่มทีมซ่อมประเภทด่วนพิเศษภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากได้รับการแจ้งจากลูกค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

นอกจากนี้ ยังรุกต่างจังหวัดมากขึ้น ด้วยการสร้างศูนย์กระจายสินค้าขนาด 5 พันตารางเมตร ที่จังหวัดลำปาง พร้อมปรับระบบโลจิสติกส์และการบริหารสต๊อกสินค้า เพื่อเป็นฮับในการให้บริการจังหวัดในภาคเหนือ 12 จังหวัด และเตรียมนำไปใช้ในภาคอื่น ๆ ต่อไป

“ปีนี้บริษัทได้เตรียมงบฯการตลาดไว้ 1,050 ล้านบาท เน้นดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ตามพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ พร้อมด้วยโปรโมชั่นต่าง ๆ และมีการใช้พรีเซ็นเตอร์ “โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยตั้งเป้าเติบโต 10% หรือมียอดขาย 1.1 หมื่นล้านบาท และครองมาร์เก็ตแชร์ 33-35% เป็นเบอร์ 1 ของตลาด”

Advertisment

พานาฯ-ซัมซุงบุกหนัก

นายฉัตรชัย เตชะพานิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับพานาโซนิค นอกจากจุดขายหลักอย่างเทคโนโลยีนาโนอี (Nanoe) ที่สามารถฟอกอากาศ กำจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค ซึ่งใส่มาในแอร์ 14 รุ่น จากเดิม 10 รุ่น เพื่อรับดีมานด์จากปัญหาฝุ่นและไวรัสแล้ว ปีนี้จะใช้โอกาสจากการที่พานาโซนิคเป็นสปอนเซอร์หลักของการแข่งขันโอลิมปิกมาใช้ในการทำตลาดด้วย โดยจัดแคมเปญและกิจกรรมในธีมโอลิมปิก เริ่มตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ยาวไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม พร้อมครอสโปรโมชั่น เช่น แถมเครื่องทำน้ำอุ่น รวมถึงผ่อน 0% นาน 24 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มกระจายสินค้าให้กับร้านต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว มั่นใจว่าจะช่วยให้ยอดขายเติบโตประมาณ 10% แม้สภาพอากาศอาจไม่เป็นใจนัก

นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ รองประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ฉายภาพว่า ปีนี้การแข่งขันมีแนวโน้มดุเดือดเป็นพิเศษ เนื่องจากแต่ละแบรนด์ต้องพยายามเอาชนะการเติบโตในปีที่แล้วซึ่งสูงมาก เพื่อรับมือนอกจากกลุ่มลูกค้าครัวเรือนและองค์กรแล้ว บริษัทจึงเพิ่มการทำตลาดกับช่างแอร์ ที่ถือเป็นอินฟลูเอนเซอร์สำคัญในพื้นที่ต่างจังหวัด เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากยังซื้อแอร์ตามคำแนะนำของช่าง เช่น ดีไซน์ให้ติดตั้งง่ายและขยายการรับประกันคอยล์ร้อน-เย็นเป็น 3 ปี ตอบโจทย์ปัญหาดีมานด์สูงในช่วงหน้าร้อนและความเชื่อมั่น ขณะเดียวกันชูฟังก์ชั่นสมาร์ทอย่างปรับอุณหภูมิอัตโนมัติด้วยเอไอ ฟอกอากาศ PM 1.0 และประหยัดพลังงาน เพื่อตอบโจทย์ของผู้บริโภคเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมซึ่งยังมีกำลังซื้อสูง

รวมมิตรจุดขาย

ขณะเดียวกัน “โตชิบา” ซึ่งปีนี้หวนกลับมาทำตลาดแอร์เต็มที่อีกครั้ง เลือกใส่จุดขายมาแบบรวมมิตรครบทุกฟังก์ชั่น พร้อมแผนบีสำหรับกรณีอากาศไม่ร้อน โดยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้แอร์จะเป็นตัวผลักดันการเติบโตของบริษัท ด้วยการเพิ่มไลน์อัพจาก 3 รุ่น เป็น 14 รุ่น โดยมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ฟอกอากาศ, ปล่อยประจุลบ ไวไฟ ไอโอที และประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว รวมถึงประกันชิ้นส่วน 5 ปี และมอเตอร์ 10 ปี พร้อมเดินหน้าทำแคมเปญใหญ่ช่วงเมษายน และลดเวลารอรับบริการหลังการขายให้เหลือไม่เกิน 48 ชั่วโมง รวมถึงเตรียมระดมกิจกรรม-โปรโมชั่นตามหน้าร้านเพิ่มหากสภาพอากาศไม่ร้อน จึงเชื่อว่าจะสามารถจูงใจผู้บริโภคและช่วยให้ยอดขายเติบโต 100% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 3% เป็น 5%

“สภาพเศรษฐกิจในปีนี้จะทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย จึงต้องทำให้สินค้าของเรามีความคุ้มค่ามากที่สุด”

ไปในทิศทางเดียวกับ “ไฮเออร์” ที่ปีนี้ อัดฟังก์ชั่นในแอร์แบบเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น “ไฮเออร์ สมาร์ท ไลฟ์” เพื่อใช้งานวันสต็อปเซอร์วิส ทั้งควบคุมการทำงาน แจ้งซ่อม และรับโปรโมชั่นต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นกรองอากาศ PM 0.8 เพิ่มไลน์อัพขนาด 1.5 หมื่นบีทียู เพื่อรับดีมานด์กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและโฮมออฟฟิศ