เอ็มบีเคจัดทัพเพิ่มทราฟฟิก “โตคิว” ต่อสัญญา 9 ปี/ผุดคอมมิวนิตี้ใหม่

“เอ็ม บี เค” จัดทัพสู้ผลกระทบโควิด-19 เน้นประคองธุรกิจ ชี้นักท่องเที่ยวหาย กระทบศูนย์การค้า-ผู้เช่ารายย่อยแห่ปิดตัว เร่งปรับโซน พื้นที่ร้านค้า ดึงผู้เช่าใหม่ โรงเรียนกวดวิชา ทำโคเวิร์กกิ้งสเปซ เพิ่มความหลากหลาย หวังช่วยดึงทราฟฟิก เผยห้างญี่ปุ่น “โตคิว” ต่อสัญญายาวอีก 9 ปี เดินหน้าลงทุนคอมมิวนิตี้มอลล์ “เดอะไนน์ ติวานนท์” คาดมีนาคม 2564 ได้ตัดริบบิ้น


นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, พาราไดซ์ พาร์ค, พาราไดซ์ เพลส, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 กล่าวในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ห้างสรรพสินค้าและสถานบริการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ลดลง จากที่หลายประเทศออกมาตรการงดการเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยง รวมถึงประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทุก ๆ ธุรกิจ ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่ายมากขึ้น

เช่นเดียวกับธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ที่มีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มชาวต่างชาติกว่า 60% และลูกค้าคนไทย 40% ปัจจุบันแม้จะกลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่ก็ยังพบว่าจำนวนผู้เข้าใช้บริการลดลงไปกว่า 10% คาดว่าผู้คนยังมีความตื่นกลัวและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น จากปัจจัยที่เกิดขึ้นกระทบต่อผู้เช่าในศูนย์การค้า

ปรับพื้นที่เช่าหวังเพิ่มทราฟฟิก

นายบันเทิงกล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจศูนย์การค้าของบริษัทแบ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้า

ทั้งการลดค่าเช่า 30-70% ซึ่งเริ่มทำมาตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ขึ้นอยู่กับประเภทของร้านค้า รวมทั้งมีการคืนเงินมัดจำค่าเช่าให้แก่ผู้เช่า 2 เดือน จากเดิมที่ผู้เช่าต้องจ่าย 5 เดือน เพื่อให้ใช้เป็นส่วนลดหนี้ที่จะนำมาใช้ในอนาคต เป็นการแบ่งเบาภาระผู้เช่า

“ที่ผ่านมา เอ็ม บี เคมีผู้เช่ารายย่อยจำนวนมากและส่วนใหญ่จะมีสายป่านสั้น ทำให้ต้องปิดตัวไปกว่า 20% จากนี้ศูนย์ต้องหาผู้เช่ารายใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อเพิ่มทราฟฟิกในศูนย์ให้หลากหลายขึ้น โดยที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เช่าและพื้นที่ส่วนกลางในห้างสรรพสินค้าเอ็ม บี เค บริเวณชั้น 3 และชั้น 4 พื้นที่ประมาณ 6,400 ตารางเมตร รวมถึงปรับพื้นที่เช่าสำหรับ coworking space ชั้น 6 พื้นที่ 1,500 ตารางเมตร เน้นปรับเป็นโรงเรียนกวดวิชาและร้านค้าใหม่ ๆ หลายเซ็กเมนต์ เพื่อดึงให้อัตราการเช่ากลับมาเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีผู้เช่าหลักทั้งโรงภาพยนตร์ ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ศูนย์รวมโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ ศูนย์รวมกล้อง เป็นต้น

นายบันเทิงกล่าวถึงแผนการดำเนินงานจากนี้ บริษัทเล็งเห็นโอกาสปรับเปลี่ยนร้านค้าในศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ให้หลากหลายเซ็กเมนต์ มีราคาและการบริการหลังการขายที่เข้าถึงง่าย หลังจากนี้ จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าคนไทยเป็นหลัก เนื่องจากประเมินว่ากว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาต้องใช้เวลาไปถึงต้นปีหน้า ตอนนี้ต้องจับตาดูสถานการณ์แบบวันต่อวัน

โตคิวต่อสัญญายาว 9 ปี

นายบันเทิงกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของห้างสรรพสินค้าโตคิวที่เช่าพื้นที่ 4 ชั้น (ด้านถนนพระราม 1) ที่ผ่านมาได้เจรจาต่อสัญญาเช่าพื้นที่ไปแล้ว 9 ปี โดยหลังจากนี้ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอยู่เป็นระยะ ๆ ทั้งกลุ่มเสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าเด็ก ชุดชั้นในบุรุษและสตรี อุปกรณ์กีฬา กระเป๋าเดินทาง รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนอน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคราคาพิเศษกว่า 5,000 รายการ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่เพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ เดอะไนน์ ติวานนท์ บนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ด้วยงบฯลงทุน 350 ล้านบาท เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในย่านติวานนท์และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีหมู่บ้านจัดสรรเป็นจำนวนมาก มีจำนวนประชากรในชุมชนหนาแน่น ซึ่งขณะนี้โครงการได้ดำเนินการก่อสร้างไปกว่า 20% คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมีนาคม 2564

เป้าประคองตัว-ไม่หวังกำไร

สำหรับศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ นายบันเทิงกล่าวว่า ขณะนี้กลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบโดยมีจำนวนลูกค้ากลับมาใช้บริการประมาณ 70-80% โดยที่ศูนย์มีร้านค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ได้แก่ ร้านค้าออร์แกนิกเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ตามด้วยคลินิกเสริมความงามเชนต่าง ๆ และร้านอาหาร ตลอดจนสินค้าแฟชั่น ปัจจุบันศูนย์มีพื้นที่เช่าแบ่งเป็นพื้นที่สำนักงาน 9,306 ตารางเมตร และพื้นที่ค้าปลีก 15,231 ตารางเมตร

ขณะที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์คที่ผ่านมา ได้รีโนเวตพื้นที่ในโซนต่าง ๆ ภายในศูนย์เพื่อให้ทันสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น และมีการเปิดบริการของผู้เช่ารายใหม่ ๆ อาทิ ร้าน O2 ศูนย์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ ร้านค้าทองเยาวราช สถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ตลอดจนการจัดกิจกรรมการตลาดดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ โดยกลยุทธ์ของศูนย์การค้าจะใช้วิธีการเสนอขายพื้นที่ให้กับกลุ่มผู้เช่าโดยตรง โดยจะคัดเลือกร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าหรือการบริการที่สามารถดึงผู้ใช้บริการให้เข้ามาจับจ่ายในศูนย์การค้า

พร้อมกันนี้ นายบันเทิงยังกล่าวถึงธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยวว่า ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ภาครัฐปิดน่านฟ้า ทำให้ลูกค้าโรงแรมในเครือเอ็ม บี เคหายไปจำนวนมาก จากเดิมลูกค้าหลักของโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส มีกลุ่มลูกค้าจากประเทศออสเตรเลีย สิงคโปร์ อิสราเอล จีน ฮ่องกง และประเทศแถบยุโรป รวมถึงโรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท ที่ได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน ซึ่งจะต้องรอสัญญาณจากรัฐบาลที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวกลับมา

“จากสถานการณ์และผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 รวมถึงปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปีนี้บริษัทไม่ได้หวังตั้งเป้ากำไรเติบโต แต่จะเน้นรักษาสภาพคล่องเพื่อประคับประคองรักษาธุรกิจเป็นสำคัญ” นายบันเทิงย้ำในตอนท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการดำเนินงานของเอ็ม บี เคไตรมาสแรกที่ผ่านมามีรายได้รวม 2,528 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันที่มีรายได้ 2,715 ล้านบาท หรือลดลง 187 ล้านบาท หรือ 7% และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 181 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 479 ล้านบาท หรือลดลง 281 ล้านบาท หรือลดลง 59% โดยในส่วนของธุรกิจศูนย์การค้าที่สร้างรายได้ให้บริษัทในสัดส่วนประมาณ 50% ไตรมาสแรก

ที่ผ่านมามีรายได้ 835 ล้านบาท ลดลง 145 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา หรือลดลง 15% จากการที่ต้องปิดศูนย์การค้าทุกแห่งเป็นการชั่วคราว และยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าตลอดระยะเวลาที่ปิดดำเนินการ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวมีรายได้ 311 ล้านบาท ลดลง 101 ล้านบาท หรือ 25% จากการที่หลายประเทศได้มีมาตรการล็อกดาวน์ปิดประเทศ ประกอบกับสายการบินต่าง ๆ ได้หยุดให้บริการ จึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจศูนย์อาหาร 436 ล้านบาท ลดลง 60 ล้านบาท หรือ 12% ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีรายได้ลดลง 51 ล้านบาท หรือ 44% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทำให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลงโดยเฉพะตลาดบ้านระดับล่าง และมีการชะลอการโอนกรรมสิทธิ์บ้านออกไป เป็นต้น