“อีซูซุ” ฟันธงหนี้ครัวเรือน ไม่กระทบตลาดในประเทศ

ปีนี้พยายามรักษาให้เท่ากับปีที่เเล้ว…นี่คือคำพูดของนายใหญ่ค่ายตรีเพชร อีซูซุ เซลส์ จำกัด “โทชิอากิ มาเอคาวะ” ที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะเดินหน้ารักษาส่วนแบ่งทางการขาย และระดับของผลงานให้เทียบเคียงกับปีที่ผ่านมา

ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าตลาดรถยนต์เมืองไทยขวบปีที่ผ่านมานั้น ดีกรีความร้อนแรงอุณหภูมิของการแข่งขันหนักขึ้นเรื่อย ๆ

ค่ายรถยนต์ทุกค่ายต่างประสบความสำเร็จในแง่ของผลงาน ช่วยกันดันยอดให้ตลาดเติบโตเกิน “ล้าน” คันมาได้ ถือเป็นการเซตมาตรฐานใหม่ที่ใหญ่ขึ้น อะไรคือปัจจัยที่นายใหญ่ค่ายอีซูซุยังมั่นใจไปติดตามกัน

Q : หวังผลงานใกล้เคียงหรือดีกว่าปีก่อน

จะเห็นว่าในปี 2561 ตลาดรถยนต์เมืองไทยมีความต้องการขึ้นไปมากกว่าระดับ 1 ล้านคัน ถือเป็นตัวเลขที่มากกว่าหลายคนได้ประเมินไว้เมื่อต้นปีค่อนข้างมาก โดยปีที่ผ่านมาอีซูซุมียอดขายที่ 177,864 คัน โต 11% แบ่งเป็นรถปิกอัพจำนวน 149,578 คัน โต 12% ส่วนรถพีพีวี 12,554 คัน รถบรรทุกอีซูซุ คิง ออฟ ทรัคส์ มียอด 15,732 คัน สูงสุดเท่าที่เคยทำมา โต 9.4% มีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่กว่า 50%

ส่วนปีนี้อีซูซุเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีกว่าปีก่อนเล็กน้อย หรือจะรักษาระดับให้เทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้หมายความว่าจะต้องมีปัจจัยบวกสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง

การลงทุนอย่างต่อเนื่องในระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐ อัตราแลกเปลี่ยน อัตราเงินตราจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามา ส่วนปัญหาหนี้สินครัวเรือนเองก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร ขณะที่ปัจจัยลบเองนั้น ที่ยังต้องเฝ้าจับตา โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งตรงนี้สามารถมองได้ทั้งเป็นปัจจัยบวกและลบเพราะผลจากสงครามการค้านี้ อาจจะส่งให้เงินตราการลงทุนจากจีนไหลเข้าสู่ประเทศไทยก็เป็นได้ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแข็งค่าในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ส่งผลกระทบในขณะนี้ นอกจากนั้น คงต้องดูปัญหาความสงบในสหราชอาณาจักรและอเมริกาใต้ สถานการณ์ความชัดเจนของเบร็กซิต ว่าจะเป็นไปในทิศทางใดด้วย

Q : ตลาดส่งออกถือว่ายังดี

ปีที่ผ่านมาตลาดส่งออกของอีซูซุถือว่าดีมาก ๆ มียอดส่งออกรถทุกประเภท 160,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย ส่วนปีนี้คาดว่าจะมียอดส่งออกเพิ่มขึ้นอีก 10,000 คันเป็น 170,000 คัน อย่างปีที่ผ่านมาตลาดส่งออกหลักของเราคือ ซาอุดีอาระเบียมีสต๊อกรถยนต์ค่อนข้างเยอะ และได้มีการเคลียร์สต๊อกกันไปแล้ว ทำให้ปีนี้ตลาดน่าจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ จากปีที่แล้วเราส่งรถไปซาอุดีอาระเบีย22% ส่วนปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 24% ส่วนความคืบหน้าของแผนธุรกิจที่อีซูซุตั้งใจจะส่งออกรถบรรทุกเพื่อไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ นั้น ปัจจุบันนี้ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจน แต่หากเป็นไปได้บริษัทจะส่งออกไปจำหน่ายยังกลุ่มประเทศอาเซียนก่อนเป็นเป้าหมายแรก

Q : ปัจจัยที่ทำให้อีซูซุโตต่อเนื่อง

แน่นอนว่า เรามีสินค้าใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า คือ อีซูซุเอ็กซ์-ซีรีส์, รุ่นพิเศษต่าง ๆ ล่าสุดเราส่ง “สเทลธ์” มาทำตลาดในช่วงปลายปี และต้นปีนี้เราก็ประเดิมด้วยอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ออนิคซ์ และรวมถึงรถบรรทุกอีซูซุ

Q : อีซูซุมีเทคโนโลยีรองรับมาตรฐานยูโร 5

สำหรับเรื่องเครื่องยนต์ดีเซลเป็นต้นเหตุของฝุ่นและควัน ถือว่ายังคงเป็นประเด็นที่ร้อนแรงอยู่ ผู้ผลิตเองก็ยังคง “ฉงน” ว่าทำไมเรื่องดังกล่าวถึงเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาได้แน่นอนว่า รถยนต์หากใช้เครื่องยนต์ยูโร 5 จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น ราคารถยนต์ก็จะแพงขึ้น และหากรัฐบาลตัดสินใจว่าจะต้องใช้เครื่องยนต์ดังกล่าว ค่ายรถยนต์ก็จะต้องปฏิบัติตาม ปิกอัพของอีซูซุ

นั้นได้ผ่านมาตรฐานยูโร 4 อยู่แล้ว แต่เนื่องจากขณะนี้มีแต่กระแสพูดถึงเรื่องดังกล่าว โดยที่ยังไม่มีความชัดเจนหรือประกาศอย่างเป็นทางการออกมาจากภาครัฐ ให้ค่ายรถยนต์และผู้เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตาม

ปัจจุบันอีซูซุมีซัพพลายเออร์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก บางชิ้นส่วนต้องมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อจะรองรับมาตรฐานยูโร 5 ซึ่งเราก็ควรจะต้องปรับปรุงโครงสร้างน้ำมันก่อนว่ามาตรฐานน้ำมันของประเทศไทยว่าพร้อมหรือยัง เพราะต้องมีการปรับปรุงโรงกลั่น

ดังนั้นทุกอย่างยังต้องใช้ระยะเวลา หากจะให้คำตอบว่า 2 ปีนั้นเราตอบไม่ได้ ในเชิงเทคนิค อีซูซุมีเทคโนโลยีในการรองรับอยู่แล้ว เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ แต่ปัญหาซัพพลายเออร์ที่มีอยู่อย่างจำกัด อย่างบี 20 ใช้กับรถบรรทุกได้แล้ว สำหรับรถปิกอัพถ้ามีเวลาระดับหนึ่งให้เตรียมตัวก็สามารถทำได้ และเราคงจะต้องมาร่วมด้วยการแก้ปัญหาตรงนี้ เพื่อให้ผ่านไปได้ในทุก ๆ ภาคส่วน

Q : ปีนี้ตลาดปิกอัพแข่งสนุก มีหน้าใหม่เข้าร่วม

อีซูซุมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากตลาดปิกอัพถือเป็นตลาดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นการจะมีผู้เล่นหน้าใหม่ให้ความสนใจเข้ามาตรงนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับตลาดประเทศไทย การมีบริษัทอื่นอยากเข้ามาเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่มีใครอยากเข้ามาสิเป็นเรื่องประหลาด อีซูซุมั่นใจในคุณภาพ เทคโนโลยี ทักษะการผลิตรถปิกอัพ อีซูซุเป็นเจ้าตลาด ถ้ามีค่ายอื่นเข้ามา เราไม่เชื่อว่าจะสามารถมาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของอีซูซุได้