“มท.1” โยน “กกต.” เคาะวันรับสมัครสรรหา ส.ว. พร้อมกำชับทุกฝ่ายคุมเลือกตั้งยึดกฎหมาย

“มท.1” โยน “กกต.” เคาะวันรับสมัครสรรหา ส.ว. พร้อมกำชับทุกฝ่ายคุมเลือกตั้งโดยยึดกฎหมาย-ความถูกต้อง

เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ห้องประชุมรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกังวลกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการกำหนดวันรับสมัครสรรหา ส.ว.ระดับอำเภอ ตามกำหนดการที่วางไว้ จะตรงกับวันที่ 30 ธันวาคม ซึ่งใกล้เทศกาลปีใหม่ อาจทำให้เกิดความยุ่งยาก ว่า ต้องดูความเหมาะสมเรื่องวัน เวลา ทาง กกต.จะมีการพิจารณาหารือกันอีกครั้ง คงต้องถามทาง กกต. ตนไม่ใช่คนกำหนด หากชัดเจนแล้วว่าเป็นวันเวลาไหน ตนก็ไม่มีปัญหา และพร้อมดำเนินการ

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวต่อว่า ปี 2562 ถือเป็นปีแห่งการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือก ส.ว. การเลือกตั้ง ส.ส. และการเลือกตั้งท้องถิ่นที่มีหลายระดับ กระทรวงมหาดไทยมีส่วนสนับสนุน แต่สิ่งที่ต้องระลึกไว้เสมอคือต้องดำเนินการตามกฎหมาย โปร่งใส ไม่เช่นนั้นประเทศชาติจะได้รับผลกระทบ เรามีเรื่องต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนที่การเมืองก็มีส่วนช่วย และการเมืองมีสิ่งสำคัญคือการเลือกตั้ง ดังนั้นส่วนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องทำให้การเลือกตั้งส่งผลออกมาเป็นประโยชน์

“ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการแต่ละกระทรวง ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ตามหน่วยเลือกตั้ง จะต้องยืนอยู่บนความถูกต้อง อยู่บนหลักกฎหมาย มีความเป็นกรรมการที่เป็นกรรมการจริงๆ ถ้าเรายืนอยู่บนจุดเหล่านี้ แล้วมีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น เราก็จะสามารถตอบคำถามชี้แจงได้ ผมมั่นใจว่าทุกฝ่ายมีความพยายามที่จะชี้แจงทำความเข้าใจ” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

เมื่อถามถึงกระบวนการสรรหา ส.ว. ที่ กกต.ระบุไว้จะต้องเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด ไม่มีระบบเครือญาติที่เกี่ยวข้องทางการเมือง พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ตนคิดว่าจะไปตั้งกฎเหล่านี้ไม่ได้ แต่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เขาเลือกมาได้อย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น เมื่อถามต่อว่า ผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการในการคัดเลือกจะมาช่วยดำเนินการอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ทาง กกต.ได้ชี้แจงไปแล้ว ตนไม่รู้จะพูดอย่างไร หากพูดไปสื่อก็สืบจนได้ว่าใครเป็นเครือญาติใคร อย่าถามตนแบบนี้เลย

Advertisment

เมื่อถามว่า จะมีการดูแลไม่ให้มีการฮั้วกันมาสมัครอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เราดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด เราก็ต้องทำแบบนี้ ถ้าไปทำนอกกฎหมายก็จะเกินอำนาจหน้าที่ ตนคิดว่าทาง กกต.มีมาตรการที่ดีแล้ว สื่ออย่าทำให้ประชาชนสับสนเลย เพราะกระบวนการถือว่าค่อนข้างยาก ดังนั้นต้องไปชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจง่ายๆว่าต้องเลือกคนดี

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ตนได้หารือกับประธาน กกต. เกี่ยวกับโครงสร้างคร่าวๆ ว่าการชี้แจงทำความเข้าใจก็เป็นขั้นตอนในเบื้องต้น แต่หลายฝ่ายยังไม่ค่อยเข้าใจกฎหมายใหม่ ดังนั้น ต้องมีการตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อซักซ้อมปัญหาอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในการเลือกตั้ง คาดว่าต่อจากนี้จะมีการประชุมร่วมกันผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกันไปยังจังหวัด อำเภออีกประมาณ 2 ครั้ง แบ่งเป็น ครั้งที่ 1 เมื่อมีการตั้งศูนย์ประสานงานเรียบร้อยแล้ว และครั้งที่ 2 ก่อนมีการสรรหา ส.ว.

เมื่อถามถึงจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส. ได้มีการวางแนวทางไว้อย่างไร พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เราจะใช้ตัวเลขประชากรที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เป็นฐานข้อมูล แต่เมื่อระยะเวลาจากนี้ไปจนถึงช่วงเลือกตั้งในเดือน ก.พ.ปี 2562 จะมีผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้ามาอยู่ในบัญชีเพิ่มขึ้น ก็จะมีการอัพเดตข้อมูลเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว รวมถึงแจ้งแก้ไขบัญชีรายชื่อในกรณีที่มีการตกหล่น ยืนยันว่าเราพยายามดำเนินการให้ถูกต้องที่สุด

 

Advertisment

ที่มา : มติชนออนไลน์