อัยการคดีพิเศษให้ “อธิบดีดีเอสไอ” ส่งสำนวน “สุเทพ-มาร์ค” สลายชุมนุมปี 53 ไป ป.ป.ช.ไต่สวน

รายงานข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 กันยายน นายอดุลย์ เฉตวงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคคีพิเศษ 1 ได้ทำหนังสือเรื่องแจ้งผลคดี ส่งไปยังผลคดีพิเศษที่ 130/2554 ซึ่งเป็นคดีระหว่าง นางหนูชิต คำกอง กับพวก ผู้กล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ที่ 1 และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ 2 ผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ๋าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งสำนวนคดีพิเศษดังกล่าว ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่ศาลฎีกาพิพากษาไว้ และให้แจ้งผล การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้สำนักงานอัยการสูงสุดทราบด้วย

สำหรับรายละเอียดหนังสือดังกล่าวระบุว่า เรียนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่องแจ้งผลคดี ตามหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ด่วนที่สุด ยธ.(คพ18)0800/285 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2556 กรมสอบสวนคดีพิเศษส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 130/2554 คดีระหว่างนางหนูชิต คำกอง กับพวกผู้กล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ที่ 1 และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ 2 ผู้ต้องหา ข้อหา ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ๋าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล และต่อมาอัยการสูงสุดได้มีคำส่ังฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองดังกล่าว ฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐายฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ,84,80,90 โดยผู้ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นจำเลยในคดีอาญาคดีดำหมายเลขดำที่ อ.4552/2556 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2911/2557 ต่อมาศาลฎีกาได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่31 สิงหาคม 2560 โดยพิพากษายกฟ้องโจทก์

สำนักงานอัยการสูงสุด ขอเรียนว่า ศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยให้เหตุผลว่า การดำเนินคดีนี้เป็นดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งในขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีที่นายกรัฐมนตรีกับข้าราชการการเมืองถูกกล่าวหา การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎมายอาญา และกระทำผิดต่อกฎหมายอื่น ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญกำหนดขั้นตอนดำเนินการ กระบวนการพิจารณาคดีประเภที้ไว้โดยเฉพาะแตกต่างไปจากการดำเนินคดีอาญาทั่วไป โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ไต่ส่วนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทำความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลฎีก่แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

จึงเรียนมาเพื่อทราบและให้ท่านส่งสำนวนคดีนี้ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาไว้ดังกล่าวข้างต้น ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นประการใด ขอได้โปรดแจ้งผลให้สำนักงานอัยการสูงสุดทราบด้วย เพื่อดำเนินในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ในวันเดียวกัน ยังได้ทำหนังสือเรื่องแจ้งข้อมูลคดีไปยัง เลขาธิการ ป.ป.ช. และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่ส่วนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนพร้อมทำความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาไว้ การพิจารณาดำเนินการได้ผลประการใด ให้แจ้งสำนักงานอัยการสูงสุดทราบด้วย

Advertisment

 

ที่มา : มติชนออนไลน์