“ประยุทธ์” อุ้มยักษ์ธุรกิจ เคาะจ้างงาน ปวช. ยัน ป.ตรี 2.6 แสนตำแหน่ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ภาพข่าว : Royal Thai Government

พล.อ. ประยุทธ์ ชี้ เศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ ไฟเขียวการจ้างงาน 2.6 แสนตำแหน่ง ตั้งแต่ ปวช – ปวส. ถึงปริญญาตรี ยังไม่อนุมัติแจกเงินรายละ 3 พันบาท อยู่ระหว่างการพิจารณากลไกไปใช้กับ หาบเร่ แผงลอย และรายย่อย ไม่เอื้อห้างเจ้าสัว สั่งศึกษา Land bridge เชื่อมอันดามัน – อ่าวไทย ภาคต่ออีอีซี

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมแถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจากหยุดยาวหวังว่าประชาชนคงได้พักผ่อนกันตามสมควร แต่รัฐบาลไม่ได้หยุดทำงาน เสาร์-อาทิตย์ คิดงานต่างๆ นำปัญหามาแก้ไขและเตรียมการประชุม ครม.ด้วย นายกฯ ก็มีงานทำอย่างนี้ ต้องช่วยกันเพราะบ้านเมืองมีปัญหาเรื่องโควิด -19 และเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว

จัดงบฯ อุ้มธุรกิจหยุดเลิกจ้างพนักงาน

อย่างไรก็ตาม หลังจากพบปะภาคเอกชนหลายคณะ เช่น สมาคมอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มอีคอมเมิร์ซ กลุ่มค้าปลีก โลจิสติกส์ ซึ่งต้องดูว่าปัญหาเขาอยู่ตรงไหน รัฐบาลจะสนับสนุนเขาตรงไหน ต้องร่วมมือกันทำงาน แย่งงานกันไม่ได้แล้ว ถ้ารัฐและข้าราชการทำก็ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ผู้ประกอบการเจอ ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลมุ่งเน้นคือ ทำอย่างไรให้ภาคเอกชนลดการเลิกจ้างพนักงานให้มากที่สุด

มาตรการที่ออกมาจำเป็นต้องดูลูกจ้าง พนักงาน ไม่ได้มุ่งหวังจะไปช่วยผู้ประกอบการรายใหญ่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่อย่าลืมว่าเขามีพนักงาน ลูกจ้างอยู่ข้างล่างเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เราต้องดูการจัดหางบประมาณเพิ่มเติมให้เท่าที่เป็นไปได้

ส่วนด้านอีคอมเมิร์ซ ได้หารือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และกระทรวงพาณิชย์แล้ว เรื่องการจัดทำแพลตฟอร์มการค้า ทำอย่างไรที่ใช้แพลตฟอร์มของไทยที่มีอยู่แล้วเดิมในขณะนี้ให้กว้างขวางมากขึ้น โดยใช้ความร่วมมือระหว่างกันไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับใคร

Advertisment

ยังไม่แจกเงิน 3 พันบาท

“ส่วนเรื่องมาตรการแจกเงินรายละ 3 พันบาทนั้น ยังไม่ได้พิจารณาใน ครม. ยังไม่มีรายละเอียด เงินถ้าจะดูแลตรงนี้จะดูผู้ประกอบการรายย่อย ค้าปลีก แม้ค้า พ่อขายข้างล่างจะทำอย่างไร เพราะเขาเดือดร้อน แต่ก็ต้องมีกลไกซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ ไม่เช่นนั้นข้อมูล และระบบการจ่ายเงินไม่พร้อม ต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ ในการให้ผู้บริโภคได้ซื้อของจากร้านค้าปลีกข้างล่างไม่ใช่ผู้ประกอบการรายใหญ่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

สั่งศึกษา land bridge ภาคต่อ อีอีซี

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่ ที่เราพึ่งพาการส่งออกกับการท่องเที่ยว พอเกิดปัญหาขึ้นมา 2 อย่าง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำมาก ทำให้รายได้ของประเทศลดลง จึงจำเป็นต้องสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่เรากำลังทำให้เกิดขึ้น แม้มีแผนงานอีอีซีแล้วก็ตาม แต่วันข้างหน้าต้องหาโครงการขนาดใหญ่ที่จะลงทุนในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เพิ่มรายได้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

ทุกอย่างใช้เวลาในการก่อสร้างอีอีซีเริ่มมา 5 ปีแล้วก็ไปได้ระยะหนึ่ง ต้องหาโครงการใหม่ จะเชื่อมตะวันตกตะวันออกได้อย่างไร ควรจะมีการศึกษาเรื่อง land bridge กำลังให้แนวทางไปศึกษา คิดว่าจะช่วยเศรษฐกิจระยะยาวได้ในโอกาสต่อไป การขนส่งสินค้าข้ามฝั่งตะวันตกตะวันออก อ่าวไทยกับอันดามัน ท่าเรือต่างๆ ต้องพัฒนาทั้งหมด

อนุมัติจ้างงาน ล้านตำแหน่ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ครม.ยังเห็นชอบมาตรการจ้างงานนิสิต นักศึกษา จบใหม่ประมาณ 260,000 ตำแหน่ง เป็นเวลา 12 เดือน ตั้งแต่ ปวช.ปวส ปริญญาตรี ไม่รวมความไปถึงการจ้างงานอื่นๆ ซึ่งรวมแล้วคาดว่าประมาณล้านคน เป็นงบประมาณแต่ละกระทรวง และกระทรวงแรงงานจะเปิดงาน expo อีกครั้ง

Advertisment

ทุ่ม 2 พันล้าน ปรับปรุงสหกรณ์

ส่วนมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ลดค่าครองชีพ กระตุ้นการบริโภค ดูแล หาบเร่ แผงลอย กำลังศึกษาและขออนุมัติหลักการขึ้นมาให้ชัดเจนเกิดขึ้น ให้ถึงมือผู้ยากไร้จริงๆ และยังปรับปรุงทุกสหกรณ์ของเราวงเงิน 2 พันล้าน เพื่อให้เกิดความทันสมัย และดูแลภาคประชาชนภาคการเกษตร และภาคอื่นๆ ด้วย และยังเห็นชอบโครงการเชียงใหม่แกสโตรโนมี ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมล้านนารูปแบบใหม่ จำนวน 48 ล้านบาท เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรและผู้ประกอบการ 250 ล้านบาท คล้ายๆ มิชชาลินสตาร์ นำเที่ยวเชิงสตรีทฟู๊ดใน จ.เชียงใหม่ซึ่งเป็นการนำร่อง และจะสนับสนุนในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

เศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจหลายตัวปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ จากสถานการณ์ภายในประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด แม้มีการตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 และติดตามได้ทั้งหมด ก็อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนก เป็นการทดสอบว่าเราเป็นอย่างไร เราทำได้ดีเป็นที่น่าพอใจ

ในส่วนชายแดนก็กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลตลอดเวลา ส่วนเรื่องวันหยุดยาวจะพิจารณาวันหยุดให้มากขึ้นในระยะต่อไป เพราะเห็นว่ามีการท่องเที่ยว มีการหมุนเวียน ใช้จ่ายเงินมากขึ้น ทำให้ธุรกิจดีขึ้น ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันท่องเที่ยวในประเทศ จะทำให้ห่วงโซ่ต่างๆ ดีขึ้น แม้ไม่ดีเท่าเดิมแต่ต่อลมหายใจให้กันและกัน