เทียบฟอร์มแคนดิเดต “ขุนคลัง”

กว่า 1 เดือน หลังนายแบงก์ “ปรีดี ดาวฉาย” กลายเป็นอดีตขุนคลัง ในรัฐบาล “ประยุทธ์ 2/1” หลังยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เพราะปัญหาสุขภาพ และถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ทำให้เก้าอี้เจ้ากระทรวงวายุภักษ์ ว่างเว้นอยู่นาน

ภารกิจสำคัญยิ่งของประเทศด้านนโยบายการเงินการคลังก็หยุดชะงัก ขณะที่สาธารณชนและนักธุรกิจต่างพากันรอคอยและจับตาใครจะได้รับทาบทามและถูกเลือกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ท่ามกลางกระแสข่าวลือ ดาดเดา ที่แพร่สะพัด

จาก 3 บิ๊ก ก่อนโผล่รายชื่อบิ๊กรายที่ 4ใครเป็นใครแวดวงธุรกิจ แวดวงการเงินการลงทุนรู้จักกันดี คนไหนตัวหลอก คนไหนตัวเลือกจริง ยังเป็นปริศนา เพราะหากเทียบฟอร์ม ฝีมือ คอนเน็กชั่น น่าจะเฉือนกันไม่ลง

เริ่มจาก นายชาติชาย พยุหนาวีชัย อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน อย่างไรก็ตาม การจะเข้ามาดำรงตำแหน่งอยู่ที่นายกฯต้องตัดสินใจ ขณะที่ตัวเลือกที่หลายฝ่ายเห็นว่าอาจจะเหมาะสมกับช่วงเวลานี้ เพราะสามารถทำงานกับฝ่ายการเมืองได้ คือ นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่จะเกษียณอายุราชการสิ้นเดือน ก.ย.นี้

“ตอนนี้นายประสงค์ถือว่าเหมาะสม เพราะว่าสามารถขับเคลื่อนงานต่อไปได้เลย เพราะเป็นปลัดมาอยู่แล้ว แต่นายกฯ อาจกังวลในประเด็นที่ว่า นายประสงค์ใกล้ชิดพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย ซึ่งโควตา รมว.คลัง ต้องการให้เป็นขั้วของนายกฯอย่างแท้จริง แต่ปัญหาที่ผ่านมาคือ คนที่นายกฯไปเชิญมาอย่าง นายปรีดี ดาวฉาย เข้ามาแล้ว ไม่ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ ทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนงานได้ เพราะถูกการเมืองเข้ามากดดัน” แหล่งข่าวกล่าว

ส่วน นายสมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ที่มีชื่อปรากฏด้วยนั้น มีกระแสว่าปฏิเสธจะเข้ามารับตำแหน่งแล้วเช่นเดียวกับ นายกานต์ ตระกูลฮุน อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ที่ใกล้ชิดนายกฯ เนื่องจาก 2 คนนี้ต้องการทำงานเบื้องหลังมากกว่า เพราะปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นกรรมการอยู่ในบริษัทเอกชนหลายแห่ง

สำหรับม้าแรงตีนปลาย นายประสงค์ ผ่านการอบรมหลักสูตร “ซูเปอร์คอนเน็กชั่น” เพราะจบหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 52 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นเดียวกับ “น้องบิ๊กตู่” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงสถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) รุ่นที่ 14 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “รุ่นเดียวกัน” กับ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง คนปัจจุบัน-แคนดิเดตขุนคลังคนใหม่ แถม “ร่วมรุ่น” กับ “อนุชา บูรพชัยศรี” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งยังหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.) รุ่น 2 สถาบันวิทยาการพลังงาน อาทิ “กอบกาญจน์ วัฒนวรากูร” อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” อดีต รมว.คมนาคม และ “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร” อดีต รมช.กลาโหม ในรัฐบาลประยุทธ์ 1-คสช. “ปณต สิริวัฒนภักดี” แห่งอาณาจักรไทยเบฟ “กัญจนา ศิลปอาชา” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี

นอกจากคอนเน็กชั่นทางการเมือง-นักธุรกิจแล้ว “ประสงค์” ยังเข้านอก-ออกในตึกไทยคู่ฟ้า ทุกวงประชุมเศรษฐกิจ-การคลัง เพราะ “พล.อ.ประยุทธ์” เชื่อมือ-เรียกใช้งาน ไล่เรียงตั้งแต่การนั่ง “หัวโต๊ะ” คณะกรรมการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท และประธานคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

รวมถึงการเปิดทำเนียบรัฐบาล พบผู้บริหารสายการบิน และ 70 ซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่-ชั้นนำของเมืองไทยด้านอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีก และสมาคมการค้าปลีก-เอสเอ็มอีทุนไทย และภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์

ล่าสุดยังอยู่ในวงแลกเปลี่ยนมุมคิดเศรษฐกิจไทย กับ 12 นักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองนโยบายการเงินการคลัง ระบบภาษี การกระตุ้นการจ้างงาน และการปรับทักษะแรงงาน จึงไม่ต้องแปลกใจ หาก “ประสงค์” จะขึ้นชั้น “ขุนคลังคนใหม่” เป็นตัวจริง ไม่ใช่ตัวหลอก