วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบนโยบายดูแลน้ำแล้ง-น้ำท่วมทั่วประเทศ ช่วยเหลือรวดเร็วและต่อเนื่อง ให้กรมทรัพยากรน้ำทำงานเชิงรุก เร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามแผนและมาตรการสูบน้ำเข้าบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ เพื่อรักษาระบบนิเวศและเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับประปาหมู่บ้านจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
- หวยออกงวด 16 มิ.ย. ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล-สถิติหวยย้อนหลัง 10 ปี
- วิธียืนยันตัวตน แอปทางรัฐ ผ่าน 7-11 รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำอย่างไร
- เปิดเหตุผล ทำไม ฮาตาริ ตัดสินใจรีแบรนด์ครั้งใหญ่รอบ 34 ปี แม้ถือมาร์เก็ตแชร์ 70%
กรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 2 ดำเนินการสูบน้ำจากสถานีสูบน้ำโครงการระบบส่งน้ำจากแม่น้ำน่าน-บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ เข้าบึงบอระเพ็ดเพื่อเป็นน้ำต้นทุนในการผลิตประปาหมู่บ้านและประปาส่วนภูมิภาคท่าตะโก มีปริมาณการสูบน้ำตั้งแต่น้ำแล้งจนถึงปัจจุบันมากกว่า 14,499,000 ล้าน ลบ.ม. สนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน ในพื้นที่ อ.เมืองนครสวรรค์ อ.ชุมแสง และ อ.ท่าตะโก ดำเนินการช่วยเหลือสูบน้ำดิบเพื่อผลิตประปาบ้านหนองไผ่กอเดียว หมู่ 2 และบ้านฟากเขา หมู่ 9 ต.พนมรอก อ.ท่าตะโก รวมปริมาณการสูบน้ำ 712,800 ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 1,171 ครัวเรือน 2,494 คน และช่วยสูบน้ำดิบเพื่อผลิตประปาบ้านพนมรอก หมู่ 1 ต.พนมรอก อ.ท่าตะโก รวมปริมาณการสูบน้ำ 220,320 ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 1,748 ครัวเรือน 3,807 คน และยังคงทำต่อเนื่องจนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้ง
นอกจากนี้การสูบน้ำเข้าบึงบอระเพ็ด มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยรักษาระบบนิเวศแหล่งน้ำ บึงบอระเพ็ดเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ราว 132,700 ไร่ มีปริมาตรน้ำเก็บกัก 234.77 ล้าน ลบ. ม. จากสถานการณ์ภัยแล้งทำให้ระดับน้ำในบึงเปลี่ยนแปลงลดลง ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำเก็บกักเพียง 47.50 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 20.23 ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตรอบบึง การสูบน้ำเติมเข้าบึงบอระเพ็ดช่วยให้สัตว์ พืช สิ่งมีชีวิต รวมถึงนกอพยพที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นสามารถดำรงชีพ อีกทั้งยังเป็นการรักษาวิถีชีวิตของชุมชนได้อย่างยั่งยืน
