“ไทยออยล์” ช่วยชุมชน หนุนพลังงานทดแทนต่อยอดโลกทัศน์

พลังงานเป็นสิ่งหนึ่งที่คอยขับเคลื่อนการดำรงชีวิตของมนุษย์ แต่กระนั้น ยังคงมีอีกหลายพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงาน อันเป็นระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ดังนั้น หนทางหนึ่งซึ่งเป็นคำตอบสำหรับหลาย ๆ พื้นที่คือการผลิตพลังงานทดแทนขึ้นมาใช้ เพื่อเป็นทางเลือกแก่ชุมชนที่ต้องการพึ่งพาตนเองให้มากกว่าการพึ่งพิงแหล่งพลังงานจากภายนอก โดยแต่ละพื้นที่หรือชุมชนสามารถเลือกพลังงานที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตนได้อีกด้วย

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัทใน กลุ่ม ปตท. ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านพลังงานมาอย่างยาวนาน จึงเล็งเห็นถึงความขาดแคลนด้านพลังงานของหลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากไทยออยล์มีพื้นฐานการทำงานด้านพลังงานมาอย่างยาวนาน มีองค์ความรู้ และบุคลากรที่เชี่ยวชาญ จึงทำให้กำหนดแนวทางการดำเนินการกิจกรรมเพื่อสังคมในด้านการส่งเสริมการสร้างพลังงานทดแทน ผ่านรูปแบบการทำงานผ่านพันธมิตรต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นลงพื้นที่จริง, สอบถามความต้องการ, วิเคราะห์ความเป็นไปได้

ในการดำเนินการลงทุนด้านพลังงานทดแทนรูปแบบต่าง ๆ และส่งมอบองค์ความรู้ การบริหารจัดการแก่ชุมชนให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ด้วยตนเอง เพื่อถ่ายทอดสู่พื้นที่ใกล้เคียงต่อไป

“เกรียงไกร นาคะพงศ์” ผู้จัดการกิจการเพื่อสังคม บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการดำเนินงานซีเอสอาร์ของไทยออยล์ แบ่งเป็น 2 พื้นที่ คือพื้นที่โดยรอบชุมชนที่ไทยออยล์เข้าไปดำเนินธุรกิจ (Sustainability Community) และพื้นที่สังคมในระดับประเทศ (Sustainability Society) เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพื้นที่ใกล้ และพื้นที่ไกล

“สำหรับการดำเนินการในพื้นที่โดยรอบชุมชน หรือพื้นที่ใกล้จะเป็นพื้นที่รัศมี 5 กม. รอบโรงกลั่นของไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ภารกิจหลัก จะเป็นด้านการดูแลสุขภาพอนามัย ดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มตั้งโรงกลั่น (2505) และก่อตั้งเป็นศูนย์สุขภาพ และการเรียนรู้เครือไทยออยล์เพื่อชุมชน ในปี 2553 เพื่อขยายการทำงานเพิ่มพื้นที่สันทนาการแก่คนในชุมชนมากขึ้น”

Advertisment

โดยศูนย์สุขภาพดังกล่าวทำงานร่วมกันกับโรงพยาบาลศรีราชา และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการสำรวจสุขภาวะ เก็บข้อมูลสถิติของคนในชุมชน ครอบคลุม 10 หมู่บ้าน 10,000 ครัวเรือน

โดยรวบรวมเป็นฐานข้อมูลเพื่อให้โรงพยาบาลสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทั้งในแง่ของการป้องกัน ติดตามผู้ป่วย ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคต่าง ๆ ผ่าน ระบบบันทึกข้อมูลสุขภาพ อาทิ ข้อมูลด้านทันตกรรม ข้อมูลการตรวจทาลัสซีเมีย เป็นต้น

“เกรียงไกร” กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกิจกรรมในพื้นที่สังคมระดับประเทศ ผ่านมาไทยออยล์เน้นการลงพื้นที่เพื่อสร้างโมเดลการใช้พลังงานทดแทนตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ผ่านการร่วมงานกับพันธมิตรต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ในภาคเหนือ อาทิ โครงการพลังงานน้ำชุมชนบ้านแม่โจ้ และโรงไฟฟ้าห้วยปูลิง จ.เชียงใหม่ ที่ร่วมมือกับมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม (มพส.), กรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน (พพ.), กระทรวงพลังงาน ทั้งยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาพลังงานทดแทนระบบก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียจากกระบวนการผลิตยางแผ่น และของเสียครัวเรือน เกาะหมากน้อย จ.พังงา และมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

“ตลอดระยะการทำงานกับหน่วยงานภาครัฐ และชุมชนจะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ชุมชนใช้ประโยชน์ ช่วยดูแลรักษา เพื่อให้พวกเขายืนได้ด้วยตนเอง หรือนำความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่ชุมชนใกล้เคียง หรือแม้แต่คนในพื้นที่เองด้วย ขณะที่หน่วยงานของภาครัฐ เป็นภาคส่วนที่มีองค์ความรู้ ทั้งในแง่ของภูมิสังคม รวมไปถึงเป็นผู้ที่จะคอยติดตาม ดูแลชุมชน รวมไปถึงให้ความรู้แก่องค์กรที่จะเข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทน เพื่อส่งต่อแก่ชุมชน เรียกได้ว่าเป็นตัวประสาน และติดตามการทำงานของทุกฝ่ายนั่นเอง โดยไทยออยล์เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ และบุคลากรในช่วงแรก”

Advertisment

“ล่าสุดไทยออยล์ลงพื้นที่ยังศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยตง ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ที่จะนำพลังงานทดแทนไปติดตั้งให้ โดยได้ดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่งคือพลังงานจากก๊าซชีวภาพจากเศษอาหารเหลือทิ้ง โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อผลิตเป็นพลังงานเชื้อเพลิง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไฟฟ้าไม่เสถียร เพราะเป็นพื้นที่สุดปลายสายส่งไฟฟ้าของจังหวัด บวกกับเป็นพื้นห่างไกล ประสบภัยพิบัติอุทกภัยทุกปี”

“เมื่อได้พูดคุยกับทางศูนย์การเรียนฯจึงพบว่ามีความต้องการเรื่องพลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เราจึงลงพื้นที่เพื่อศึกษา และประเมินการลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้ในโรงเรียน เป็นประโยชน์ในด้านการศึกษาเรียนรู้ ทั้งสื่อการเรียนการสอนต่าง ๆ และระบบการเรียนรู้ทางไกลแก่นักเรียนต่อไป ทั้งในอนาคตยังพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานทดแทนแก่ชุมชนต่อไป”

เพราะพลังงานเป็นตัวขับเคลื่อนภาคธุรกิจ ขณะเดียวกัน ก็เป็นการจุดประกายอนาคตของใครหลาย ๆ คนด้วยเช่นกัน