6 ทริกใช้ไฟบ้านอย่างไรให้ประหยัด ค่าไฟไม่พุ่งในช่วง work from home

ปัญหาหนึ่งที่เจอกันถ้วนทั่วแทบทุกครัวเรือนหลังจากปรับรูปแบบการทำงานมาเป็นการทำงานที่บ้าน (work from home) นั่นก็คือ ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นมาก เพราะเมื่อทำงานอยู่ที่บ้านตลอดทั้งวัน เราก็ต้องเปิดแอร์และใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มากขึ้นกว่าในภาวะปกติที่ออกไปทำงานนอกบ้านหลายเท่าตัว

ในช่วงเวลาที่หลายครอบครัวต้องประสบกับปัญหาค่าไฟเพิ่มสูงนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้แชร์ 6 ทริกเด็ด ใช้ไฟบ้านสุดประหยัด ช่วง Work from home ที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

1.เปิดหน้าต่างรับลม-แสงธรรมชาติ สว่าง เย็นกายสบายกระเป๋า : แสงและลมธรรมชาติถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการประหยัดพลังงานในช่วงที่มี การ Work from home ที่สำคัญการเปิดให้อากาศถ่ายเทยังจะช่วยลดความเสี่ยงของ COVID-19 ได้อีกด้วย

2.เลือกใช้หลอด LED สว่างเท่าเดิม เพิ่มเติมคือประหยัดไฟ : หลอดไฟแบบเดิม ทั้งหลอดไส้ และหลอดฟลูออเรสเซนต์ ใช้ไฟฟ้ามากกว่าหลอด LED หากเทียบจากจำนวนหลอดที่เท่ากัน ดังนั้นหากเปลี่ยนมาใช้หลอด LED จะสามารถให้ความสว่างได้มากกว่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

3.laptop ตั้ง sleep mode เมื่อไม่ได้ใช้ ปรับแสงจอไม่สว่างเกินไป ประหยัดไฟและเซฟแบต : laptop หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำงาน แต่ก็ใช่ว่าในทุก ๆ งานจะใช้ laptop ดังนั้น การตั้งค่า sleep mode เพื่อประหยัดพลังงาน ช่วยให้ประหยัดไฟและประหยัดแบตเตอรี่ด้วย

4.ปิด gadget ไร้สายเมื่อไร้การเชื่อมต่อ ปิดทันทีเมื่อเลิกใช้ ไม่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ จำขึ้นใจเมื่อใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า : อุปกรณ์ไร้สาย แม้ว่าจะไม่มีการเชื่อมต่อก็ยังคงมีการทำงาน และใช้กระแสไฟฟ้าในการหล่อเลี้ยงระบบ ดังนั้นอุปกรณ์ไหนที่ไม่จำเป็นก็ปิดเครื่องและถอดปลั๊กทันที เพื่อลดการใช้กระแสไฟฟ้า

5.ฟังเพลงใส่หูฟัง ประหยัดไฟกว่า : การใช้หูฟังเพื่อการฟังเพลง ควรเลือกหูฟังแบบสาย เพราะใช้กระแสไฟฟ้าในการทำงานน้อยกว่าหูฟังไร้สาย อีกทั้งในขนาดและราคาที่เท่ากัน หูฟังแบบมีสายจะได้รับฟังเสียงในคุณภาพที่ดีกว่า

6.เลือกมุมทำงานมุมเดียว และตั้งเวลาการใช้ไฟเหมือนที่ทำงาน 9.00 เว้นเที่ยง และปิดตอน 17.00 : กำหนดเวลาการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชัดเจน แน่นอนว่า ในบางเวลาเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็ไม่จำเป็น การกำหนดเวลาที่ชัดเจนจะทำให้เราเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ