รัฐบาลฟิลิปปินส์ ประกาศถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ในปี 2019 หรืออีก 2 ปีข้างหน้าแน่นอนแล้วหลังได้รับผลกระทบจากภัยก่อการร้าย
โดยวิลเลียม รามิเรซ ประธานคณะกรรมาธิการกีฬาของฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า หลังจากการได้ร่วมประชุมกับประธานาธิบดีโรดริโก้ ดูแตร์เต มีมติว่าจะขอถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์กองกำลังติดอาวุธหัวรุนแรงที่สนับสนุนกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส) ยังคงยึดครองเมืองมาราวี ในเกาะมินดาเนาเอาไว้ จนทำให้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ และต้องการจะยุติปัญหาการก่อรร้ายให้เสร็จสิ้น รวมทั้งซ่อมแซมเมืองที่ได้รับความเสียหายก่อนเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามหลังจบโอลิมปิกเกมส์ 2020 ฟิลิปปินส์จะขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์อีกครั้ง ขณะที่ทัพนักกีฬาฟิลิปปินส์ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย ในเดือนสิงหาคมนั้น ยังส่งทีมไปแข่งตามปกติ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การถอนตัวของฟิลิปปินส์นั้นเป็นเพียงข่าวอยู่ ในการทำงานต้องรอให้ฟิลิปปินส์ยืนยันอย่างเป็นทางการกับทางที่ประชุมสหพันธ์ฯ ต้นเดือนส.ค. ถึงจะมีการเดินหน้าหาเจ้าภาพใหม่ได้ ในส่วนของเจ้าภาพใหม่นั้น เมื่อเรียงตามตัวอักษรแล้วทางบรูไนไม่มีท่าทีอยากเป็นเจ้าภาพในช่วงเวลานี้ ดังนั้นตนมองว่ากัมพูชาที่ขอจัดในครั้งที่ 32 ปี 2023 มีความเหมาะสม และน่าจะต้องการขยับเข้ามาจัดให้เร็วขึ้น เนื่องจากเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งกีฬาซีเกมส์มาตั้งแต่ต้น แต่ยังไม่เคยเป็นเจ้าภาพมาก่อน รวมทั้งสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาก็มีความตั้งใจให้ประเทศเป็นเจ้าภาพซีเกมส์มานานแล้ว ขณะที่ไทยเอง ที่ให้ความสนใจจะเป็นเจ้าภาพเช่นกัน โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานีที่มีการแถลงข่าวเตรียมพร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 หรือ พ.ศ.2568 นั้น น่าจะยังเร็วเกินไปที่จะจัดในอีก 2 ปีข้างหน้า
