ไทย-ซาอุฯ ลงนาม MOU เปิดเวทีร่วมมือด้านอาหาร พลังงาน เวลเนส

ไทย-ซาอุฯ ลงนาม MOU

ไทย-ซาอุฯ ลงนาม MOU เปิดเวทีความร่วมมือด้านอาหาร ก่อสร้าง พร้อมพื้นที่แก่ภาคเอกชน ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พลังงาน เผยซาอุฯ สนใจลงทุนด้านเวลเนส พลังงานสะอาดในไทย

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและนายคาหลิด อับดุลอะซีส อัลฟาลิฮ์ (Khalid Abdulaziz Al-Falih) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุม “Thai-Saudi Investment Forum”

โดยการประชุมดังกล่าว เป็นเวทีเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจร่วมกันของสองประเทศต่อเนื่อง ถือเป็นเวทีสำคัญ เพื่อนำเสนอถึงยุทธศาสตร์การลงทุน การส่งเสริมการค้าการลงทุนภาคเอกชน และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันการลงทุนร่วมไทย-ซาอุฯ

พร้อมกันนี้ยังเป็นเวทีให้นักลงทุนทั้งสองฝ่ายได้เจรจาธุรกิจการลงทุนร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นได้ผลักดันให้เกิดการลงนาม MOU การค้าการลงทุนจากภาคเอกชนไทยและซาอุฯ รวม 8 ฉบับ ในกลุ่มธุรกิจแปรรูปอาหาร ธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

รวมทั้งยังได้เปิดเวทีสร้างความร่วมมือภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มธุรกิจเป้าหมายของ อีอีซี และซาอุฯ ที่สำคัญ ๆ อาทิ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Wellness) กลุ่มอุตสาหกรรมการก่อสร้างเมืองใหม่แห่งอนาคต และกลุ่มธุรกิจด้านพลังงาน เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือร่วมลงทุนไทย-ซาอุฯ เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมจับคู่นักธุรกิจไทยและซาอุฯ (Business Matching) มากกว่า 500 คู่เจรจา และคาดเกิดมูลค่าการค้าใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 หรือมูลค่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 30,000 ล้านบาท และสร้างการลงทุนใหม่ระหว่างกันเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว หรือมูลค่ารวม 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2566 พร้อมขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกัน ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งสองประเทศให้เข้มแข็ง

สำหรับสถานการณ์การค้าการลงทุน ซาอุฯ ถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่ระดับโลก เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันเป็นสินค้าหลัก ในปี 2564 มีมูลค่า GDP สูงถึงประมาณ 8.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าที่ไทยมีศักยภาพส่งออกไปยังซาอุฯ ได้แก่ กลุ่มอาหารและสินค้าเกษตร ยาง สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล เป็นต้น และอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพไปลงทุนในซาอุดีฯ ได้แก่ สาขาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สปา ก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างการแปรรูปอาหาร

ส่วนธุรกิจสาขาที่ซาอุฯ สนใจลงทุนในไทย อาทิ สาขาท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Wellness) การก่อสร้างเมืองใหม่และ e-mobility ปิโตรเคมีและอุตสาหกรรม Conversion พลังงานทดแทน และการลงทุนในเขตนวัตกรรม EECi เป็นต้น