“ณุศาศิริ” รุกธุรกิจเวลเนส ผนึกทุนจีนปั้นเมืองกัญชา

“ณุศาศิริ” ผนึกกลุ่มทุนจีนทุ่มงบฯ 1.7 พันล้านบาทปรับโฉมเลเจนด์ สยาม พัทยา ธีมปาร์กเชิงวัฒนธรรมสู่ “เวลเนสเดสติเนชั่น” แห่งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Miracle Cannabis Land “มหัศจรรย์เมืองกัญชา” ตอกย้ำความพร้อมของประเทศไทยในการเป็น cannabis destination ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโครงการเลเจนด์ สยาม (Regend Siam) ธีมปาร์กเชิงวัฒนธรรม เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทได้ลงทุนอีกประมาณ 1,700 ล้านบาท สำหรับพลิกโฉมโครงการเลเจนด์ สยาม พัทยา ซึ่งเป็นธีมปาร์กเชิงวัฒนธรรมของไทยสู่ความเป็นเวลเนสเดสติเนชั่นแห่งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Miracle Cannabis Land หรือ “มหัศจรรย์เมืองกัญชา” โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565

โดยคอนเซ็ปต์ใหม่ดังกล่าวนี้บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท CSR ประเทศจีน พร้อมบริหารงานภายใต้บริษัทใหม่ ชื่อว่า “ณุศา-CSR” ในสัดส่วน 50 : 50 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อตอกย้ำศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการเป็น cannabis destination และศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness tourism) ระดับโลกในอนาคตอันใกล้นี้

“การปรับโฉมของเลเจนด์ สยามในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็น cannabis destination ทั้งด้านการท่องเที่ยว การแพทย์ทางเลือก รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและบริการทางการแพทย์ครบวงจร ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ธุรกิจกัญชงครบวงจร”

โดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จากการปลูกสู่การสกัดและการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ แชมพูสระผม, ยาสีฟัน, ครีมบำรุงผิว, อาหารเสริม, ยารักษาโรค ฯลฯ รวมถึงเป็นศูนย์การเรียนรู้กัญชง กัญชาของโลก หรือ Cannabis Museum ควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์วิจัยนำกัญชา กัญชง เพื่อเป็นองค์ความรู้สู่การพัฒนาทุกรูปแบบ รวมทั้งจะเป็นศูนย์กลางในการติดต่อและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาไทยสู่ตลาดโลกด้วย

นางศิริญากล่าวด้วยว่า Miracle Cannabis Land มหัศจรรย์ เมืองกัญชา แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.Cannabis Land : เมืองมหัศจรรย์ ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชาและสมุนไพรของ Siam Bio Innovation คลินิกกัญชาและแพทย์ทางเลือก ตลอดจนสถานที่ซึ่งตอบโจทย์ lifestyle เช่น Cannabis Treatment และ Cannabis Cafe’

2.Learning Center : ศูนย์การเรียนรู้แปลงเพาะชำกัญชง กัญชา รวมถึงพิพิธภัณฑ์กัญชาโดยมีไฮไลต์ คือ ห้อง “ไอรมดมควัน” ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์กัญชาแห่งแรกของประเทศไทย และจะเป็นที่ตั้งของสถาบันกัญชาศาสตร์ ตลอดจนเป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับกัญชา

และ 3.Legend Siam ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์เดิมตั้งแต่เริ่มต้น โดยปีนี้จะได้พบกับโฉมใหม่ที่พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ อาทิ สวนสนุกเชิงวัฒนธรรม, ตลาด 100 ปี, พื้นที่จัดกิจกรรมอีเวนต์ และ boutique resort เป็นต้น

โดยโครงการเลเจนด์ สยาม จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งสำหรับกลุ่มคนไทยที่เข้ามาศึกษาและเรียนรู้เรื่องกัญชา-กัญชง และนักท่องเที่ยวต่างประเทศจากทั่วโลกที่นอกจากจะได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องกัญชาและสมุนไพรไทยผ่าน Cannabis Museum แล้วสถานที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ทุกคนสามารถเข้ามาฟื้นฟูร่างกายแบบธรรมชาติและสัมผัสวัฒนธรรมไทย

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าโฉมใหม่ดังกล่าวนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีหลังจากประเทศไทยประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

“ก่อนหน้านี้ณุศาศิริลงุทนในโครงการเลเจนด์ สยามไปแล้วประมาณ 4,700 ล้านบาท เมื่อปลายปี 2561 เมื่อเจอวิกฤตโควิดบวกกับเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดกิจการ ทำให้เราประกาศปิดตัวชั่วคราวไปช่วงหนึ่งเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2563 และกลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อปลายปี 2564 กระทั่งล่าสุดเราได้พันธมิตรจากจีนเข้ามาร่วมทุน และตัดสินใจปรับโฉมใหม่รองรับกระแสเวลเนสทัวริซึ่ม”

นอกจากนี้ยังขยับเข้าสู่ธุรกิจด้านเกษตรกรรมและด้านเทคโนโลยี โดยมีแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวมไปทั่วโลก โดยที่ผ่านมาบริษัทยังได้ปรับพื้นที่บางส่วนในโครงการเลเจนด์ สยาม เป็นแหล่งปลูกกัญชา-กัญชง ซึ่งได้ขอใบอนุญาตปลูกพืชกัญชงบนพื้นที่กว่า 60 ไร่ในเชิงงานศึกษาวิจัย และอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตโรงสกัดสาร CBD สารสำคัญจากพืชกัญชง เพื่อต่อยอดให้ Cannabis Museum เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้กัญชา-กัญชงของโลก