“เอไอ-บิ๊กดาต้า” ความมั่งคั่งของ “อเมซอน”

2018 Vanity Fair Oscar Party – Arrivals – Beverly Hills, California, U.S., 04/03/2018 – Amazon's Jeff Bezos. REUTERS/Danny Moloshok

เมื่อต้นเดือนมีนาคม ฟอร์บสจัดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดของโลก ปรากฏว่า “บิลล์ เกตส์” เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ถูกเขี่ยตกบัลลังก์ โดย “เจฟฟ์ เบโซส์” แห่งอาณาจักรอเมซอน

ผลสำรวจของฟอร์บสระบุว่า มูลค่าหุ้นของอเมซอนสูงขึ้น 59% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ความร่ำรวยของเบโซส์เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า มาอยู่ที่ราว 1.12 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ชนะ “บิลล์ เกตส์” ที่มีสินทรัพย์รวม 89,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ความร่ำรวยของเบโซส์เพิ่มขึ้น พร้อมกับพัฒนาการของเทคโนโลยี ทั้งนวัตกรรมบิ๊กดาต้า และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของอเมซอน

เบโซส์ เริ่มต้นธุรกิจอเมซอนในปี 1994 โดยลาออกจากงานมาทำธุรกิจเว็บไซต์ amazon.com เพื่อขายหนังสือออนไลน์ในโรงรถ จนในปี 1996 อเมซอนเพิ่มจำนวนหนังสือเป็นมากกว่า 1 ล้านปก ซึ่งปีนี้เอง ซีอีโอแห่งอเมซอน ได้เข้าทำเนียบคนรวยของฟอร์บสเป็นครั้งแรก ด้วยทรัพย์สินราว 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในปี 1999 ยุคที่ “ดอตคอม” รุ่งเรือง เบโซส์หันมาเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเพลงและวิดีโอ แม้ว่าจะประสบความสำเร็จในทางธุรกิจ แต่อเมซอนยังไม่ทำกำไร แต่เบโซส์ก็ยังเดินหน้าลงทุนในธุรกิจอื่นผ่านกองทุนส่วนตัว “Blue Origin” ด้านธุรกิจการบินและอวกาศ แม้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่สุดท้ายเบโซส์ก็สามารถทำให้อเมซอนมีกำไร “ครั้งแรก” ในปี 2001

จากนั้นปี 2005 อเมซอนเปิดตัว “อเมซอนไพรม” บริการพิเศษสำหรับสมาชิก แม้รายได้จะยังไม่เท่าช่วงแรก แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาในการสร้างรากฐานที่สำคัญ นำมาซึ่งการเปิดตัว “อเมซอน เว็บ เซอร์วิส” (AWS) หรือธุรกิจคลาวด์ คอมพิวติ้ง ในปีถัดมา รวมถึงออก ขาย “Kindle” เครื่องอ่านหนังสือดิจิทัล

หลังจากธุรกิจออนไลน์ต่าง ๆ ที่ปูทางมาตลอดเริ่มออกดอกผล ปี 2010 ยอดขายอีบุ๊กแซงหน้ายอดขายหนังสือเล่ม ทำให้สินทรัพย์ของเบโซส์ก้าวกระโดดมาอยู่ที่ 12.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

อเมซอนโตไม่หยุด พร้อมโดดเข้าซื้อหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ และผลิตอุปกรณ์ลำโพงผู้ช่วยอัจฉริยะ “Alexa” โดยระหว่างปี 2016-2017 เป็นปีที่ทรัพย์สินของเบโซส์เติบโตสูง จากการเข้ามาเล่นในตลาดเอไอ ทำให้ความมั่งคั่งของเบโซส์ เพิ่มจาก 40,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2016 กระโดดขึ้นมาเป็น 112,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2018

นักวิเคราะห์มองความสำเร็จของเบโซส์ว่า เกิดจากการให้ความสำคัญต่อผู้บริโภคเป็นอันดับแรก จากที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้าน AI และบิ๊กดาต้า เพื่อช่วยผู้บริโภคในการตัดสินใจก่อนซื้อสินค้า

เบโซส์เคยพูดในเวทีหนึ่งว่า “อเมซอน ไม่ได้ทำกำไรจากการขายสินค้า แต่อเมซอนทำกำไรจากการช่วยลูกค้าตัดสินใจในการซื้อ”

อีกหนึ่งความสำเร็จของอเมซอน คือ Alexa ผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่พัฒนาโดย AWS และมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ เว็บไซต์ “มาร์เก็ตวอตช์” รายงานเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ยอดขาย Alexa เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยดันให้มาร์เก็ตแคปของอเมซอน สูงขึ้นถึง 700,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และปัจจุบันสามารถกล่าวได้ว่า ธุรกิจ AWS สามารถทำกำไรได้มากกว่าทุกธุรกิจค้าปลีกในเครืออเมซอนแล้ว

เดือนมกราคมที่ผ่านมา เบโซส์เพิ่งจะมีอายุครบ 54 ปี เท่ากับว่ายังมีเวลาอีกมากที่จะสร้างอาณาจักรแห่งความร่ำรวยต่อไป ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายประเมินว่า โลกอาจจะได้เห็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยระดับ “ล้านล้านเหรียญ” ในอนาคตอันใกล้