สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้พบหารือประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ณ พระราชวังเครมลิน กรุงมอสโก ในระหว่างการเดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 5-7 มิ.ย. นี้ตามคำเชิญของประธานาธิบดีรัสเซีย
โดยการเดินทางดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ท่ามกลางความร้อนแรงของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ โดยระหว่างการแถลงข่าว “ปูติน” ได้ขอบคุณ “สี” ที่ส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ ทำให้รัสเซียบรรลุผลในการค้ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และปูตินยังระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขณะนี้อยู่ในระดับที่ดี “อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ขณะที่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแถลงข่าวโดยเรียกประธานาธิบดีปูตินว่า “เพื่อน” และเน้นย้ำมุมมองของปูตินด้วยการระบุว่า “ความร่วมมือของเราวางอยู่บนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน” ซึ่งจะยังแข็งแกร่งต่อไปอีกยาวนาน
ผู้นำทั้งสองได้หารือกันในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างสันติในคาบสมุทรเกาหลี ความพยายามแก้วิกฤติในซีเรีย และการรักษาเสถียรภาพของเวเนซูเอล่า
ทั้งนี้ได้มีการลงนามทวิภาคีในข้อตกลงการควบคุมและลดการกระจายอาวุธ ในวันที่ 5 มิ.ย. และประธานาธิบดีสีจะเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศประจำปีของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเดินทางไปยังสวนสัตว์มอสโกพร้อมกับประธานาธิบดีปูติน เพื่อเยี่ยมชมแพนด้ายักษ์ “หยู อี้” และ “ติง ติง” ที่ทางการจีนได้มอบให้รัสเซียดูแล 15 ปีตามโครงการศึกษาวิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ของจีน และร่วมฉลองวาระครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
ก่อนการเดินทางเยือนรัสเซียครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “TASS” ของรัสเซีย โดยกล่าวว่า ปูตินเป็น “เพื่อนที่ดีและใกล้ชิดที่สุด” ด้วยมิตรภาพอันลึกซึ้งที่เกิดขึ้นจากความไว้วางใจกันซึ่งกันและกัน อันเป็นรากฐานที่ทำให้เราปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ ความซื่อตรง ความเข้าใจ และความไว้วางใจต่อกัน
การเดินทางเยือนรัสเซียของ “สี” ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นผลจากแรงกดดันของสงครามการค้าที่ไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงโดยง่าย จากการเจรจาที่ล้มเหลวหลายครั้ง และทั้งสองฝ่ายต่างใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้กัน โดยวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้กล่าวหาสหรัฐว่า “เป็นผู้ก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ”
ตามข้อมูลของจีนระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศสูงถึง 100,000 ล้านอลลาร์สหรัฐในปี 20187 เพิ่มขึ้นถึง 30% จากปีก่อนหน้า ขณะที่การนำเข้าสินค้ารัสเซียของจีนเพิ่มขึ้นถึง 42.7% ในปี 2018 ซึ่งสื่อของรัสเซียมีการนำเสนอให้ภาคธุรกิจจีนพิจารณาย้ายฐานการผลิตมายังรัสเซีย ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐ
การเยือนครั้งนี้จึงเป็นการแสดงให้สหรัฐเห็นว่า จีนยังคงมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างรัสเซียอยู่ ซึ่งเป็นข้อต่อรองสำคัญกับสหรัฐ ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง “สี” และ “ปูติน” ยืนยาวมาอย่างต่อเนื่องนับแต่ปี 2013 โดยทั้งสองคนพบกันอย่างเป็นทางการเกือบ 30 ครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมา