องค์การอนามัยโลก ยกความเสี่ยงแพร่ระบาดไวรัส ‘โควิด-19’ สู่ระดับสูงสุด

องค์การอนามัยโลก หรือฮู ยกระดับความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ทั่วโลกขึ้นสู่ระดับสูงสุด ซึ่งถือเป็นอันดับที่มากที่สุดในการประเมินความเสี่ยงการแพร่ระบาดของฮูแล้ว

นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ฮูระบุว่า ยังคงมีโอกาสที่จะควบคุมไวรัสได้ หากสามารถจัดการตัดวงจรการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลง และยืนยันว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่ยังคงสามารถติดตามตรวจสอบได้ และยังไม่มีหลักฐานว่าไวรัสได้แพร่ระบาดอย่างเสรีในชุมชน

ทั้งนี้ผู้อำนวยการใหญ่ฮูย้ำว่า ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือการจัดการกับความหวาดกลัวและข่าวปลอมเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาที่แพร่ไปทั่ว

นายไมค์ ไรอัน หัวหน้าโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของฮูกล่าวว่า การปรับเพิ่มระดับความเสี่ยงดังกล่าวมาจากความตั้งใจที่จะให้รัฐบาลชาติต่างๆ เตรียมความพร้อม เนื่องจากระบบสาธารณสุขส่วนใหญ่ยังคงไม่เตรียมการที่จะรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นพันธกรณีของรัฐบาลทุกประเทศต่อประชาชนและยังเป็นพันธกรณีต่อโลกอีกด้วย

นับจนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 50 ประเทศที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไอซ์แลนด์ ไนจีเรีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เบลารุส และเนเธอร์แลนด์

Advertisment

ด้านสำนักข่าวบีบีซีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในระบบสาธารณสุขของอิหร่านว่า นับจนถึงช่วงบ่ายของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตในอิหร่านเนื่องจากไวรัสโคโรนาแล้วอย่างน้อย 210 คน ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่รัฐบาลอิหร่านเปิดเผยถึง 6 เท่า

สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่าทั่วโลกล่าสุดในช่วงเช้าวันที่ 29 กุมภาพันธ์อยู่ที่ 2,867 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตในอิหร่าน 34 อิลาลี 21 เกาหลีใต้ 13 ญี่ปุ่นและเรือไดมอนด์ ปรินเซสที่ละ 4 ฝรั่งเศสและฮ่องกงที่ละ 2 ฟิลิปปินส์และไต้หวันที่ละ 1

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 84,124 รายโดยนอกจากในประเทศจีนแล้วยังมีเกาหลีใต้ 2,337 อิตาลี 888 เรือไดมอนด์ ปรินเซส 705 อิหร่าน 388 ญี่ปุ่น 228 ฮ่องกง 94 สิงคโปร์ 93 สหรัฐ 62 ฝรั่งเศส 57 เยอรมนี 48 คูเวต 45 ไทย 41 เปรียญ 36 ไต้หวัน 34 สเปน 32 ออสเตรเลียและมาเลเซียที่ละ 23 อังกฤษ 20 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 19 เวียดนาม 16 แคนาดา 14 มาเก๊า 10 สวิตเซอร์แลนด 8 สวีเดนและอิรักที่ละ 7 นอร์เวย์ 6 โครเอเชีย 5 อิสราเอล โอมาน และกรีซที่ละ 4 อินเดีย ฟิลิปปินส์ โรมาเนีย และออสเตรียที่ละ 3 ฟินแลนด์ รัสเซีย ปากีสถาน และเลบานอนที่ละ 2 อัฟกานิสถาน เนปาล ลิทัวเนีย กัมพูชา จอร์เจีย ไอร์แลนด์เหนือ ไนจีเรีย แอลจีเรีย ไอซ์แลนด์ เบลเยียม ซานมารีโน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก อาเซอร์ไบจาน มาซิโดเนียเหนือ เบลารุส นิวซีแลนด์ บราซิล เอสโตเนีย เม็กซิโก อียิปต์ และศรีลังกาที่ละ 1 ราย

ส่วนผู้ที่หายจากการติดเชื้ออยู่ที่ 36,711 ราย

Advertisment

ข้อมูล:มติชนออนไลน์