เฟดอัด Super Dovish มาพร้อมข่าวดี ‘จีดีพี’ สหรัฐ

เจอโรม พาวเวลล์
ชีพจรเศรษฐกิจโลก
นงนุช สิงหเดชะ

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม คือ 0.00-0.25% ตามคาด ซึ่งในประเด็นดอกเบี้ย ตลาดและนักลงทุนไม่ได้ให้ความสำคัญหรือจับตา เนื่องจากเชื่อแน่ว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยไว้ต่ำใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์ต่อไปตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ที่ว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยไปอีกอย่างน้อย 3 ปี แต่นักลงทุนกลับไปจับตาว่า เฟดจะเปลี่ยนแปลงแผนการซื้อพันธบัตรหรือไม่

อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้เฟดยืนยันว่า จะยังคงเข้าซื้อสินทรัพย์ทั้งพันธบัตรและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อจำนองหนุนหลังเดือนละอย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อไป จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเรื่องอัตราการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้ออย่างยั่งยืน การซื้อสินทรัพย์เหล่านี้จะช่วยให้ตลาดเงินทำงานได้อย่างราบรื่น และสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างสภาพคล่องให้กับครัวเรือนและภาคธุรกิจ

ขณะที่ “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟด ก็แถลงย้ำว่า มาตรการเหล่านี้เมื่อผนวกเข้าด้วยกันจะเป็นการรับประกันว่านโยบายการเงินจะสร้างแรงสนับสนุนที่ทรงพลังให้กับเศรษฐกิจ จนกว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างสมบูรณ์

เฟดยังได้ปรับคาดการณ์จีดีพีสหรัฐดีขึ้นกว่าเดิม โดยประเมินว่าปีนี้จีดีพีจะหดตัวเพียง -2.4% จากเดิม -3.7% และปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวมากขึ้น จากเดิม +4% เป็น +4.2% อีกทั้งยังปรับเพิ่มมุมมองเชิงบวกอย่างมากต่ออัตราการว่างงาน โดยคาดว่าสิ้นปีนี้อัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 6.7% น้อยกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 7.6% ส่วนปีหน้าคาดหมายว่าจะอยู่ที่ 5% จากเดิม 5.5%

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐปัจจุบัน เฟดเห็นว่ากิจกรรมเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดอย่างมาก และคาดว่าในระยะสั้นโควิดจะยังคงบั่นทอนกิจกรรมเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อและอัตราว่างงาน ส่วนในระยะกลางโควิดจะยังสร้างความเสี่ยงค่อนข้างมากต่อเศรษฐกิจ คาดว่าในช่วงอีกหลายเดือนข้างหน้า ชาวอเมริกันอาจยังต้องขอรับอาหาร ส่วนธุรกิจขนาดเล็กก็ยังต้องการความช่วยเหลือ

Advertisment

“เดนนิส เดอบัสเชียร์” นักกลยุทธ์ของเอเวอร์คอร์ ไอเอสไอ ระบุว่าจุดยืนของเฟดในขณะนี้ถือว่าผ่อนคลายเต็มที่ ในระดับที่เรียกว่า max dovish หรือ super dovish เป็นมาตรการผ่อนคลายมากที่สุดเท่าที่กฎหมายหรือกฎระเบียบจะเอื้ออำนวยให้ทำได้ ถือว่าประธานเฟดได้ทำหน้าที่อย่างแข็งแกร่งในการสร้างความมั่นใจให้กับตลาด

ทางด้านผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น หลังจากเฟดไม่เปลี่ยนแปลงแผนการซื้อพันธบัตร เนื่องจากตลาดผิดหวัง เพราะคาดว่าเฟดจะเพิ่มการซื้อพันธบัตรระยะยาวอายุ 10 ปี และ 30 ปีมากขึ้น ซึ่งตามทฤษฎีจะช่วยให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน ทั้งนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นไปสูงถึง 0.95% จากเดิม 0.91% หลังจากทราบผลประชุมเฟด

“ปีเตอร์ บุกวาร์” แห่งบลีกลีย์ แอดไวซอรี กรุ๊ป เรียกผลการประชุมครั้งนี้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่สร้างความเคลื่อนไหวให้กับตลาด เพราะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแผนการซื้อพันธบัตรอย่างที่นักลงทุนหลายคนคาดหวัง สิ่งที่เฟดส่งสัญญาณออกมาก็คือ ไม่เปลี่ยนทั้งขนาดและองค์ประกอบของการซื้อสินทรัพย์ บ่งชี้ว่าเฟดจะซื้อสินทรัพย์ด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดา และยังส่งสัญญาณว่าการซื้อสินทรัพย์ไม่ได้มีเพดานที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์

สำหรับความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ซึ่งค้างเติ่งมานานตั้งแต่ยุค “โดนัลด์ ทรัมป์”เนื่องจากฝ่ายค้านและรัฐบาลไม่สามารถตกลงเรื่องวงเงินกันได้ ล่าสุดผู้นำของทั้งสองฝ่ายในสภาตกลงกันที่วงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะรวมถึงการแจกเงินโดยตรงให้กับชาวอเมริกัน แต่จะไม่รวมการช่วยเหลือภาคธุรกิจและรัฐบาลท้องถิ่น

Advertisment

โดยก่อนหน้านี้ เฟดได้เรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองรีบผ่านมาตรการการคลังดังกล่าวออกมาโดยเร็ว เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนแอไม่ให้ทรุดไปมากกว่านี้ เพราะลำพังมาตรการการเงินจากเฟดไม่เพียงพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจ