แหล่งข่าวจากแวดวงนักการทูตและเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (อียู) เผยว่า อียูจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อพม่าภายในสัปดาห์นี้ โดยห้ามการค้าอาวุธให้กับพม่าออกไปอีกหนึ่งปี และอาจประกาศคว่ำบาตรโดยมุ่งเป้าไปยังนายพลของกองทัพพม่าอีกหลายคนเพิ่มเติม
ทั้งนี้อียูกล่าวหารัฐบาลพม่าว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และเป็นระบบภายใต้ปฏิบัติการของกองทัพในพื้นที่รัฐยะไข่ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา จนส่งผลให้ชาวโรฮีนจาเกือบ 700,000 คนต้องละทิ้งถิ่นฐานกลายไปเป็นผู้อพยพในบังกลาเทศ
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
อียูได้มีคำสั่งห้ามการซื้อขายอาวุธกับพม่า ซึ่งกำหนดจะสิ้นสุดลงในปลายเดือนเมษายนนี้ แต่เจ้าหน้าที่ของอียูเผยว่าอียูจะต่ออายุการห้ามการซื้อขายอาวุธดังกล่าวออกไปอีกหนึ่งปีก่อนที่คำสั่งดังกล่าวจะยุติลง นอกจากนี้ยังจะขยายการควบคุมการฝึกอบรมให้กับกองทัพพม่าอีกด้วย
แหล่งข่าวในอียูยังเปิดเผยด้วยว่าอียูอาจจะออกคำสั่งห้ามการออกวีซ่ารวมถึงการยึดทรัพย์สินของนายพลในกองทัพพม่าที่มีอยู่ในอียูภายในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนนี้เพิ่มเติม โดยหนึ่งในผู้ที่จะอยู่ในรายชื่อดังกล่าวคือนายพลหม่อง หม่อง โซ ซึ่งกำกับดูแลกองกำลังทางด้านตะวันตกของพม่าที่รวมถึงรัฐยะไข่ด้วย
วันเดียวกันมีรายงานด้วยว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังเร่งสอบสวนเชิงลึกต่อข้อกล่าวหาว่ามีการกระทำทารุณต่อชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ทั้งการสังหาร ข่มขืน ทุบตี และการกระทำทารุณอื่นๆ ซึ่งอาจนำไปใช้ประกอบการยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ในกองทัพพม่าในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ในอนาคต
ที่มา : มติชนออนไลน์