รอยเตอร์ส รายงานว่า สิงคโปร์คาดว่าจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ชะลอลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากการสำรวจของรอยเตอร์ส เเสดงให้เห็นว่า ภาคการผลิตในสิงคโปร์กำลังเผชิญกับความต้องการที่อ่อนเเอกว่าทั่วโลก รวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้าจีนเเละสหรัฐที่ทวีความรุนเเรงขึ้น
รายงานระบุว่า ตัวเลขจีดีพีของรัฐบาล คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนจากไตรมาสก่อนหน้าตามฤดูกาลลและเป็นรายปีตามการสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 11 รายซึ่งต่ำกว่าระดับที่สูงขึ้น 4.7 เปอร์เซ็นต์ มากขึ้นที่การเจริญเติบโตร้อยละ 1.2 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสที่สอง
- พนักงานถูกไล่ออก เพราะพากันหนีไฟไหม้ ที่มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล
- เงินอุดหนุนนักเรียน 2567 ช่วยค่าชุด-หนังสือเรียน อนุบาล-ปวช. ได้เท่าไร
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
นายลี จู ยี นักเศรษฐศาสตร์จาก Maybank Kim Eng กล่าวว่า “ตัวเลขจีดีสุดท้ายของไตรมาสสามคาดว่าจะปรับลดลงจากจำนวนตัวเลขการผลิตที่ลดลงและตัวเลขรายเดือนสำหรับภาคบริการ เช่น สินเชื่อของธนาคารและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีตัวเลขอ่อนตัวลง” เเละเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาการเติบโตของจีดีพี ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 2.4 เปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 2.6 เปอร์เซ็นต์ และต่ำกว่าไตรมาส ที่ 2 ที่ 4.1 เปอร์เซ็นต์
ธนาคารกลางของสิงคโปร์เตือนว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งการส่งออกไปยังจีนนั้น ชะลอตัวลงกว่า 5 เดือนติดต่อกัน
สตีฟ โคโคราล นักเศรษฐศาสตร์ของมู้ดดี้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า ยังคงมีการชะลอตัวไปอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2019 นอกจากนี้การเติบโตจากทั่วโลกยังคงมีการชะลอตัว
ด้านกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม คาดการณ์การเติบโตทั้งปีที่ 2.5-3.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018 การผลิตและการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของสิงคโปร์ในปีที่ผ่านมาซึ่งส่งผลให้จีดีพีเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 3 ปี แต่การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ในปีนี้หดตัวลง ขณะที่การผลิตในโรงงานลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนกันยายน