ไทยยูเนี่ยน ติด DJSI เป็นปีที่ 5 และถูกจัดอยู่ในลำดับยอดเยี่ยมของกลุ่มอุตสาหกรรม

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทอาหารทะเลชั้นนำของโลกซึ่งมีผลิตภัณฑ์แบรนด์หลากหลายทั่วโลก ได้รับเลือกให้ติดดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) หมวดตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

โดยไทยยูเนี่ยนได้คะแนนสูงสุดอยู่ในลำดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 100 ในหัวข้อจรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฎิบัติด้านแรงงาน ประเด็นที่มีนัยสำคัญ สุขภาพและโภชนาการ สิทธิมนุษยชน การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน การบริหารจัดการความเสี่ยงและภาวะวิกฤต บรรจุภัณฑ์ ความเสี่ยงที่เกี่ยวกับน้ำ การใช้เทคโนโลยีด้านชีวภาพ และการสร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีศักยภาพสูงขององค์กร

“นายธีรพงศ์ จันศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยยูเนี่ยน กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่ความมุ่งมั่นเรื่องความยั่งยืนของเราได้รับการยอมรับ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของโลก ไทยยูเนี่ยนพร้อมทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและวางเรื่องความยั่งยืนเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจของเรา

“ไทยยูเนี่ยนและแบรนด์ทุกแบรนด์ของเราทั่วโลกมีความมุ่งมั่นที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะอนาคตของเราขึ้นอยู่กับสิ่งนี้”

ขณะที่ “ดร.แดเรี่ยน แมคเบน” ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนไทยยูเนี่ยน กล่าวว่า เรามีความภูมิใจอย่างเหลือเชื่อสำหรับความทุ่มเทด้านความยั่งยืนของเรา และถือเป็นเกียรติสำหรับไทยยูเนี่ยนที่ได้รับการยอมรับจาก DJSI เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งการจัดอันดับล่าสุดนี้นับเป็นการยกระดับแสดงถึงการได้รับการยอมรับในฐานะเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม”

“ความสำคัญด้านความยั่งยืนเหล่านี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความทุ่มเททำงานอย่างหนักของพนักงานไทยยูเนี่ยนทั่วโลก”

สำหรับดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ในหมวดตลาดเกิดใหม่ เป็นดัชนีหมวดย่อยที่ได้รับการยอมรับในระดับสูง ซึ่งเป็นการประเมินบริษัทต่างๆ ในตลาดเกิดใหม่ในผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ในแต่ละปี มีบริษัทมากกว่า 3,000 แห่งได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประเมินด้านความยั่งยืนของธุรกิจ Corporate Sustainability Assessment (CSA) ของบริษัท RobecoSAM โดยบริษัทที่ได้รับเลือกเข้ามาอยู่ในดัชนี จะต้องผ่านการประเมินด้านต่างๆ ครอบคลุมเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมในระยะยาว ทั้งในแง่ความยั่งยืนทั่วไปและแนวโน้มความยั่งยืนเฉพาะอุตสาหกรรม

ส่วน SeaChange® ซึ่งเป็นกลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน และเป็นแผนบูรณาการของโครงการริเริ่มต่างๆ ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบการดำเนินงาน 4 ด้านประกอบด้วย ด้านความปลอดภัยและแรงงานที่ถูกกฎหมาย ด้านการจัดหาวัตถุดิบด้วยความรับผิดชอบ ด้านการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบ และด้านเกี่ยวกับผู้คนและชุมชน โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก รวมทั้งช่วยตอบโจทย์ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals: SDGs) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง การขจัดความหิวโหย การจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการอนุรักษ์มหาสมุทรและการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน

ที่ผ่านมาไทยยูเนี่ยนได้เปิดเผย รายงานความยั่งยืนฉบับล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2561 รายงานฉบับดังกล่าวได้ให้รายละเอียดของผลการดำเนินงานของบริษัทในด้านต่างๆ ตามดัชนีชี้วัดที่สำคัญและเป้าหมายที่กำหนดไว้ในกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® ตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนธันวาคม 2560

ไม่เพียงเท่านี้ ที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับในดัชนีความยั่งยืนที่มีผู้ติดตามอย่างแพร่หลายมากที่สุดของโลกรวมทั้งสิ้น 2 ดัชนีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือนสิงหาคม บริษัทได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับในดัชนี FTSE4Good หมวดตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจัดอันดับโดยฟุตซี รัสเซล ที่เปิดตัวในปี 2544 เพื่อช่วยนักลงทุนตระหนักถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ESG) ในการตัดสินลงทุน และเป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทอีกด้วย