เปิดวิธีขอกู้ กองทุนชราภาพ ก่อนอายุ 55 ปี มีเงื่อนไขอะไรบ้าง 

กองทุนชราภาพ

เปิดเงื่อนไขกู้เงินกองทุนชราภาพ ประกันสังคม เช็กวิธีคำนวณเงินผ่าน 3 ช่องทาง ผู้ประกันตนได้รับเท่าไร

ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เป็นการปรับปรุงแก้ไขสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการ โดยการปรับปรุงแก้ไขสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคม กรณีชราภาพ ให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อน 

เพื่อให้ผู้ประกันตนที่เป็นผู้สูงอายุจะได้รับความคุ้มครองภายใต้ระบบสามารถเลือกเข้าถึงแหล่งเงินฉุกเฉินได้เพิ่มเติม โดยใช้เงินกรณีชราภาพที่ตนจะได้รับในอนาคตเป็นเงินทุน แต่จะทำให้ผู้ประกันตนมีหลักประกันรายได้ยามเกษียณที่ลดลง (ขอเลือก ขอคืน และขอกู้) มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้

3 ขอ “กองทุนชราภาพ”

  • ขอเลือก : ผู้ประกันตนที่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ สามารถเลือกรับเงินบำนาญชราภาพหรือเงินบำเหน็จชราภาพ  
  • ขอคืน : กรณีให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนมาใช้ก่อนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ 
  • ขอกู้ : ผู้ประกันตนสามารถนำเงินกรณีชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักค้ำประกันการกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้

เงื่อนไขสำคัญ 3 ขอ 

  • ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน 
  • กรณีชราภาพถึงแก่ความตายก่อนที่จะได้รับประโยชน์ทดแทน หรือผู้รับเงินบำนาญชราภาพ ถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ 
  • หักเงินชราภาพของผู้ประกันตนซึ่งมีหน้าที่ต้องชำระอันเกิดจากการดำเนินการที่นำเงินชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินไว้เพื่อส่งใช้กองทุนก่อนในกรณีมีเงินชราภาพ เหลืออยู่ 
  • เมื่อหักเงินดังกล่าวแล้วเหลือเท่าไรให้ทายาทของผู้นั้นซึ่งมีชีวิตอยู่ในวันที่ผู้ประกันตน หรือผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธินำเงินกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อนประมาณ 5 ล้านคน คนละ 30,000 บาท สำนักงานประกันสังคม จะต้องดำเนินการสำรองเงิน จำนวน 150,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้กองทุนประกันสังคมสูญเสียรายได้จำนวน 6,750 ล้านบาท พร้อมทั้งเสียผลตอบแทนการลงทุนในอัตราร้อยละ 4.5 เป็นเวลา 1 ปี

อย่างไรก็ตาม ร่างหลักเกณฑ์ในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.ประกันสังคมครั้งนี้ ต้องรอประกาศบังคับใช้อย่างเป็นการทางอีกครั้ง

Advertisment

ประกันสังคม หัก 5% ทุกเดือน

ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ในมาตรา 33 เป็นลูกจ้างทำงานให้กับนายจ้างที่อยู่ในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ในทุก ๆ เดือน จะถูกหักเงินเดือนเพื่อสมทบกองทุนประกันสังคม 5% ของรายได้ ซึ่งแบ่งออกไปสมทบ 3 ส่วน คือประกันเจ็บป่วย หรือตาย, ประกันการว่างงาน และประกันชราภาพ

ยกตัวอย่าง กรณีมีรายได้เกิน 15,000 บาทต่อเดือน จะต้องส่งเงินสมทบประกันสังคม เดือนละ 750 บาท (อัตราสูงสุด) ดังนี้

  • ประกันเจ็บป่วย หรือตาย : 1.5% ของยอดสมทบ หรือสูงสุด 225 บาท
  • ประกันว่างงาน : 0.5% ของยอดสมทบ หรือสูงสุด 75 บาท
  • ประกันชราภาพ : 3% ของยอดสมทบ หรือสูงสุด 450 บาท

3 ช่องทางเช็กเงินชราภาพ

สำหรับวิธีคำนวณเงินชราภาพที่ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับนั้น สามารถเช็กได้ง่าย ๆ ผ่าน 3 ช่องทาง

  • SSO Mobile App
  • Line Official Account : @SSOTHAI
  • Website : www.sso.go.th

เช็กยอดเงินผ่านแอปพลิเคชั่น

Advertisment
  • เข้าแอปพลิเคชั่น “SSO Connect”
  • กรอก “Username” ด้วยรหัสบัตรประจำตัว 13 หลัก และ ใส่รหัส “Password”
  • จากนั้นกดเข้าสู่ระบบ
  • ไปที่ “เงินสมทบชราภาพ”

เช็กยอดเงิน ผ่าน Line Official

  • เข้า Line Official : @SSOTHAI
  • คลิกที่ “ข้อมูลของคุณและการแจ้งเตือน”
  • กรอก “Username” ด้วยรหัสบัตรประจำตัว 13 หลัก และ ใส่รหัส “Password”จากนั้นกดเข้าสู่ระบบ
  • ไปที่ “เงินสมทบชราภาพ”

เช็กยอดผ่านเว็บไซต์ 

  • เข้าสู่ระบบผู้ประกันตน / สมัครสมาชิก
  • กรอกเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน
  • กรอกหมายเลขโทรศัพท์เพื่อรับรหัสการยืนยันตัวตน
  • ล็อกอินเข้าระบบและเลือกผู้ประกันตน
  • เข้าสู่หน้า “ตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตน”
  • คลิก “การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ”
  • จากนั้นระบบจะปรากฏการคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพขึ้นมา

วิธีคำนวณเงินชราภาพ

ทั้งนี้ กรณีที่จ่ายเงินสมทบกรณีสงเคราะห์บุตร และชราภาพ ไม่ถึง 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพมีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบ ที่ผู้ประกันตนจ่ายสมทบ

ตัวอย่าง การคำนวณเงินผู้ประกันตนได้รับค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท 

  • ถูกหักเงินสมทบ 5% ของค่าจ้าง (5 x 10,000) / 100 = 500 บาท
  • กรณีว่างงาน 0.5% (0.5 x 10,000) / 100 = 50 บาท
  • กรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ 3% (3 x 10,000) / 100 =300 บาท

ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนอายุ 2 ปี และสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ขณะส่งเงินสมทบได้ 2 เดือน ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพจะได้รับ 300 x 2 = 1,200 บาท

การคำนวณเงินเดือนของผู้ประกันตน ทางสำนักงานประกันสังคมจะทำการคำนวณจากเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นเป็นข้อมูลที่มีในระบบ ณ ปัจจุบัน ซึ่งอาจจะไม่รวมยอดที่อยู่ระหว่างการบันทึก เงินสมทบค้างชำระหรือข้อขัดข้องอื่น ๆ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา

เงื่อนไขใหม่ประกันสังคม

นอกจากนี้ ในร่างดังกล่าวยังเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีอื่น อาทิ เพิ่มเงินทดแทนกรณีขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ จากร้อยละ 50 ของค่าจ้าง เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้าง เพิ่มจ่ายเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรจากเดิม 90 วันเป็น 98 วัน เป็นต้น รวมทั้งแก้ไขขยายอายุขั้นสูงของผู้ประกันตนที่เป็นลูกจ้าง จากเดิม “อายุ 60 ปีบริบูรณ์” เป็น “อายุ 65 ปีบริบูรณ์”

  • ขยายอายุลูกจ้างขั้นสูง จาก 60 ปี เป็น 65 ปี 
  • ปรับมาตรา 33 จากจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือน เป็น 48 เดือน
  • เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรจากเดิมจ่าย 90 วัน เป็น 98 วัน 
  • เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพจากเดิมจ่ายร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 70 
  • กรณีสงเคราะห์บุตรให้ได้รับการคุ้มครองต่อไปอีก 6 เดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน

สำหรับขั้นตอนต่อไปหลังจาก พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับใหม่ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว จะส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตรวจสอบรายละเอียด ก่อนจะส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป