ธุรกิจน้ำมันยังไปต่อ! เปิดแผนลงทุนปตท. 5แสนล้าน ปั้นปั๊มใหม่…ลีฟวิ่งคอมมูนิตี้

เปิดแผน 5 ปี เครือปตท.ลงทุน 3.4 แสนล้านบาท เน้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจน้ำมันยังไปต่อ ทุ่มปีละหมื่นล้านขยายปั๊ม ต่อยอด life station สู่ Living Community ปลายปีนำ ปตท.น้ำมันและค้าปลีกเข้าตลาดหุ้น อยู่ระหว่างถ่ายโอนทรัพย์สิน 1.2 แสนล้าน ธุรกิจโรงกลั่นเตรียมเพิ่มกำลังผลิต

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า แผนการลงทุน 5 ปีต่อจากนี้ของ ปตท. งบฯลงทุนจะถูกแบ่งเป็น 1) สำหรับการลงทุนที่มีความชัดเจน (committed capex) รวม 340,000 ล้านบาท และ 2) โครงการที่มีความเป็นไปได้ที่จะลงทุน (provisional capex) 245,000 ล้านบาท ในส่วนของงบฯลงทุนที่มีความชัดเจนจะมีการลงทุนค่อนข้างสูง เพราะได้รวมการลงทุนในบริษัทใหม่ที่เตรียมนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คือ บริษัท PTTOR ที่อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างทุน ซึ่ง ปตท.จะต้องเพิ่มทุนให้ PTTOR เพื่อนำเงินมาซื้อทรัพย์สินต่อจาก ปตท. และแยกกิจการให้ชัดเจน รวม 1.2 แสนล้านบาท

ปั้นโมเดล “living community”

ขณะที่นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า อีก 2 ปีข้างหน้า ปตท.เตรียมเปิดตัวสถานีบริการน้ำมันคอนเซ็ปต์ “living community” ที่ออกแบบให้สถานีบริการน้ำมันเป็นศูนย์รวมชุมชน จากเดิมที่ให้สถานีบริการเพียงจุดซื้อ-ขาย ภายใต้คอนเซ็ปต์นี้ 1) เพื่อเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย

จากเดิมที่เน้นให้บริการผู้เดินทาง มาเป็นทั้งผู้เดินทางและชุมชนรอบพื้นที่สถานีบริการ 2) เป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการต่าง ๆ ทั้งที่เป็นของ ปตท .และพันธมิตรทางธุรกิจ 3) เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ (cocreator) ออกแบบสินค้าหรือการบริการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ

นอกจากนี้ ปตท.ยังผสมผสานแนวคิดที่เรียกว่า “local heroes” ด้วยการนำสินค้าที่ได้รับความนิยมในกรุงเทพฯ ไปให้บริการกับลูกค้าในต่างจังหวัด ผ่านเครือข่ายร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอนทั่วประเทศ

ในส่วนของธุรกิจการกลั่นน้ำมัน รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีในเครือ ปตท.ก็เตรียมลงทุนมหาศาลในช่วง 5 ปี มากกว่า 1 แสนล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และอัพเกรดให้โรงกลั่นผลิตน้ำมันที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ไทยออยล์-IRPC ลงทุนเพิ่ม

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ระบุว่า จะขยายกำลังการผลิตที่ 275,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มเป็น 400,000 บาร์เรล/วัน และขยายโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ท่าเรือแล้ว ได้กำหนดแนวทางการลงทุนในช่วง 5 ปีจากนี้ 2 กรณี คือ 1) เศรษฐกิจขยายตัวดี คาดว่าจะลงทุนรวม 4,000-5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะโครงการเชื้อเพลิงสะอาด เงินลงทุน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) 2) เศรษฐกิจขยายตัวช้า จะปรับลดการลงทุนลง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะที่นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี จำกัด หรือ IRPC ระบุว่า ไออาร์พีซีจะเดินเครื่องผลิตแต่ละยูนิตได้อย่างเต็มที่ เท่ากับว่าปี 2561 นี้ จะได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนได้เต็มที่ และต่อจากนี้ ไออาร์พีซีมีเป้าหมายจะสร้างกำไรขั้นต้น (EBITHA) ให้อยู่ที่ 29,000 ล้านบาท ให้ได้ภายใน 3 ปี หรือปี 2563 จึงเตรียมต่อยอดโครงการเพื่อให้ถึงเป้าหมายดังกล่าวภายใต้โครงการ GDP หรือ 1) power of growth 2) power of digital และ 3) power of people



ส่วนของ power of growth อยู่ภายใต้ได้โครงการ MARS (เงินลงทุนราว 50,000 ล้านบาท) ขยายกำลังการผลิตพาราไซลีน 1 ล้านตัน และเบนซีน 300,000 ตัน รวมกำลังผลิตใหม่ 1.3 ล้านตัน ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการบริหารได้อนุมัติให้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ จะใช้เวลาศึกษา 1 ปี ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี เงินลงทุน 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ (36,000 ล้านบาท) ส่วน power of digital ลงทุนในโครงการ IRPC 4.0 นำระบบดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาใช้ และ 3.power of people เป็นการสร้างบุคลากรรองรับการเติบโตในอนาคตภายใต้โครงการ “IRPC New DNA”