ราคาน้ำมันดิบ (3 พ.ย. 65) ปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานตึงตัว

ราคาน้ำมันดิบร่วง
REUTERS/Fabian Bimmer

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานตึงตัว ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED เป็นไปตามที่ตลาดคาด

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดยังคงกังวลอุปทานตึงตัว จากความไม่แน่นอนของการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียในช่วงเข้าใกล้เส้นตายภายในวันที่ 5 ธ.ค. 65 นี้

ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในการประชุมวานนี้ ที่ระดับ 75 bps หรือ 0.75% มาอยู่ที่ระดับ 3.75-4.0% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ และตลาดคาดการณ์อีกว่า FED อาจลดระดับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 2 พ.ย. 2565 อยู่ที่ 90.00 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.63 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 96.16 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.51 เหรียญสหรัฐ

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ต.ค. 65 ปรับลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 436.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 0.37 ล้านบาร์เรล

ตลาดน้ำมันดิบได้รับแรงหนุน หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมีราคาถูกลง และน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในอินเดียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. 65 เนื่องจากอุปทานในประเทศปรับลดลง หลังโรงกลั่นเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุง ขณะที่ตลาดกังวลโควตาการส่งออกของจีน ที่จีนมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. 65

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในตลาดมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น จากโควตาการส่งออกของจีนที่เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย.65 ขณะที่สถานการณ์การประท้วงหยุดงานในฝรั่งเศสเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้โรงกลั่นในประเทศเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง