ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลังตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ในจีนที่ยังคงรุนแรง
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือน ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 7.7% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยระดับดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่ำกว่า 8% ส่งผลให้ตลาดคาดว่า Fed มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ยลง ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อสภาวะเศษฐกิจโลก รวมทั้งอุปสงค์น้ำมันในตลาด
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- เปิดค่าซ่อม “รถอีวี vs รถใช้น้ำมัน” แพงกว่ากันเท่าไร
- ออมสิน จัดโปรฯเด็ดเงินฝากดอกเบี้ย 21% สลาก 1 ปี แจกทอง 10 กิโล
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 10 พ.ย. 2565 อยู่ที่ 86.47 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.64 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 93.67 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.02 เหรียญสหรัฐ
ตลาดจับตามองสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งยังคงรุนแรง โดยในมณฑลกว่างโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตทางตอนใต้ของจีน มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงกว่า 2,000 รายต่อวัน ส่งผลให้ทางการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการปลอดโควิด และขยายเวลาการล็อกดาวน์ ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันในจีน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ สู่ระดับ 440.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 ทำให้ความกังวลอุปทานตึงตัวในช่วงก่อนหน้าคลายตัวลง เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาน้ำมันดิบในตลาด
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นในเวียดนามและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันคงคลังในสิงคโปร์ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 9 พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์