
กบง.ไฟเขียวปรับลดค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง 2 บาท/ลิตร หวังลดราคาขายปลีกช่วยประชาชน คาดราคาเบนซินลดลง 0.90-1.20 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่ 15 ก.พ. 2566
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า กบง.มีมติเห็นชอบปรับค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสม
- พายุลูกใหม่จ่อเข้าไทย ชี้ความรุนแรงเท่า “เตี้ยนหมู่” ระวังน้ำท่วมใหญ่
- กรมอุตุฯเตือน “พายุดีเปรสชั่น” เข้าไทย รับมือฝนตกหนัก-ท่วมฉับพลัน
- นายกฯตั้งบอร์ดใหญ่คุมแจกเงิน 10,000 บาท ห้าง-โมเดิร์นเทรดรับอานิสงส์
โดยจะปรับค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลับสู่สภาวะปกติตามปี 2563 ทั้งกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล เฉลี่ยอยู่ที่ 2.00 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีรายรับในส่วนของน้ำมันดีเซลลดลงเป็นประมาณ 37.23 ล้านบาทต่อวัน (หรือประมาณ 1,117 ล้านบาทต่อเดือน)
ดังนั้น จะทำให้ราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินปรับลดลง ประมาณ 0.90-1.20 บาทต่อลิตร โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป (ส่วนน้ำมันดีเซลลดอยู่แล้ว ตามมาตรการภาครัฐไม่เกิน 35 บาท/ลิตร)
เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขยายเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่ 1.34 บาทต่อลิตร ออกไปอีกจนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 ประกอบกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนบัญชีน้ำมันมีรายรับประมาณ 516 ล้านบาทต่อวัน (หรือ 14,455 ล้านบาทต่อเดือน) ทำให้กองทุนน้ำมัน ในส่วนบัญชีน้ำมันมีฐานะติดลบน้อยลง
โดยที่ประชุม กบง.ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการประสานสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริหารจัดการอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และกลุ่มน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอลเป็นไปตามมติของ กบง.