รมว.พลังงานหารือกรมศุลฯ เดินแผนนำเข้าน้ำมัน-ปรับโครงสร้างราคาให้เหมาะสมเป็นธรรม

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

รมว.พลังงานหารืออธิบดีกรมศุลกากรขอข้อมูลต้นทุนการนำเข้าน้ำมันที่แท้จริง เพื่อหาแนวทางปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้ประชาชนได้ใช้น้ำมันในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม บริษัทน้ำมันไม่ค้ากำไรสูงเกินไป

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าหารือกับนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ที่ผ่านพิธีการทางศุลกากร โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ตนได้มาขอพบอธิบดีกรมศุลกากรเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลการนำเข้าน้ำมันจากผู้ค้าน้ำมันในต่างประเทศ ของผู้ประกอบการในประเทศไทย โดยต้องการทราบรายละเอียดทั้งต้นทุนราคา แหล่งที่มา รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ของน้ำมันที่ถูกนำเข้ามาเพื่อขายในประเทศไทย เพื่อนำไปใช้ประกอบในการพิจารณาหาแนวทางปรับโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศไทยให้เหมาะสมและเป็นธรรม บริษัทผู้ประกอบการไม่มีกำไรสูงเกินไป จนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

               

จากการพูดคุยในวันนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากอธิบดีกรมศุลกากรรับปากจะดำเนินการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าน้ำมันย้อนหลังให้นำกลับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

นายพีระพันธุ์กล่าวต่อว่า เนื่องจากพลังงานไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือไฟฟ้า เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต และเป็นต้นทุนในการทำมาหากินของประชาชน ดังนั้น จึงต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรจะให้ประชาชนสามารถซื้อน้ำมันได้ในราคาที่เป็นธรรม

โดยบริษัทค้าน้ำมันจะต้องไม่ค้ากำไรที่สูงเกินไป แต่ควรดำเนินธุรกิจอย่างพอเหมาะพอดี และในการทำงานมีความจำเป็นต้องทราบข้อมูลรายละเอียด และหาความกระจ่าง โดยเฉพาะในเรื่องของโครงสร้างราคา ถ้าหากทำถูกต้องอยู่แล้วก็ดำเนินการต่อไป แต่หากพบว่าผิดก็ต้องรีบหาทางแก้ไข เพราะหากกระทำผิดจนทำให้ราคาน้ำมันแพง และเป็นการค้ากำไรเกินควรก็เหมือนกับการปล้นประชาชน

Advertisement

ทั้งนี้ เรื่องของนโยบายการจัดหาพลังงานในราคาที่เหมาะสมให้กับประชาชนเป็นเรื่องที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้มอบให้ตนในฐานะ รมว.พลังงาน ดำเนินการ เป็นนโยบายที่ตรงกับนโยบายด้านพลังงานของพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ได้ลดราคาน้ำมันให้กับประชาชนไปแล้วส่วนหนึ่ง เพราะเป็นความเดือดร้อนเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องเร่งคลายความเดือดร้อนให้กับประชาชน

อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาหารือกับอธิบดีกรมศุลกากรครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นในการหาความจริงเกี่ยวกับต้นทุนพลังงาน หลังจากนี้จะได้ดำเนินการเช่นเดียวกันนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น กรมสรรพสามิต ที่ดูแลเรื่องภาษีน้ำมัน เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมาตนเห็นว่าแต่ละกระทรวงหรือแต่ละหน่วยงานทำงานแบบต่างคนต่างทำ จึงอยากให้มีการทำงานประสานกันให้มากกว่านี้ โดยมีเป้าหมายที่ประชาชนเป็นหลัก

นายพีระพันธุ์กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายการเปิดนำเข้าน้ำมันเสรีที่ได้มีการพูดถึงกันนั้น ในความหมายคือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สามารถจัดหาน้ำมันได้ในราคาถูกกว่าในประเทศ มาเพื่อใช้ในกิจการของตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านคนกลาง อาจจะเป็นกลุ่มขนส่ง กลุ่มแท็กซี่ ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้น้ำมันในกิจการของตนเอง หากได้ใช้น้ำมันในราคาถูกกว่าการซื้อจากคนกลางก็จะทำให้สามารถลดต้นทุนลงได้

โดยการเปิดโอกาสดังกล่าว รัฐจะต้องอำนวยความสะดวกไม่ให้เกิดอุปสรรคในการนำเข้าเสรี เพราะตามที่ตนได้พูดไปแล้วคือ พลังงานเป็นเรื่องของชีวิตมนุษย์ ดังนั้น จึงไม่ควรมีการผูกขาด จึงจะต้องกลับไปดูกฎหมายต่าง ๆ ของกระทรวงพลังงานว่าเป็นอย่างไร หากมีกฎหมายห้ามไว้ก็ต้องแก้กฎหมายเพื่อให้สามารถนำเข้าได้อย่างเสรี

Advertisement

“กรณีการลดราคาค่าไฟอาจจะต้องเกี่ยวข้องกับการยืดหนี้ กฟผ.ออกไปว่า ในส่วนนี้เป็นการดำเนินการตามระยะเวลาที่เป็นขั้นตอน จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีวิธีดำเนินการใช้หนี้ให้กับ กฟผ.โดยไม่ให้กระทบกับประชาชนอยู่แล้ว ตอนนี้ตนกำลังศึกษากฎหมายต่าง ๆ อย่างละเอียด ว่าจะทำได้แค่ไหน เพราะตั้งเป้าว่าจะปรับปรุงโครงสร้างพลังงานทั้งหมดให้เป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน”

สำหรับแนวทางการศึกษาลดราคาเบนซิน ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มนั้น มุ่งเน้นดูแลกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันแพง มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน ศึกษากลุ่มไหนควรได้รับการช่วยเหลือ ได้รับผลกระทบในช่วงนี้อย่างไรบ้าง อีกไม่นานคงได้ข้อสรุป