ปฏิบัติการ “ฝนหลวง” ช่วย จ.แพร่ น่าน พะเยา แก้ฝุ่น PM 2.5 รับ ครม.สัญจร  

ดร.ไชยา พรหมา

‘ไชยา’ รมช.เกษตรฯ ปฏิบัติการ “ฝนหลวง” ช่วย จ.แพร่ น่าน พะเยา แก้ฝุ่น PM 2.5 คาดการณ์มีฝนตกบริเวณเหนือเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ รับประชุม ครม.สัญจร 

วันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ดร.ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.แพร่ ติดตามการปฏิบัติการฝนหลวงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ณ ท่าอากาศยานแพร่ อ.เมือง จ.แพร่ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรในการปฏิบัติงาน พร้อมเปิดเผยว่า สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือทั้งตอนบนและตอนล่างยังอยู่ในสภาวะวิกฤต ได้มอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร

ระดมเครื่องบินฝนหลวงปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานและปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา กำชับให้ปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้นโดยเร็ว รวมถึงดูแลช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร พื้นที่ลุ่มรับน้ำ เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้กับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

ดร.ไชยา พรหมา

นายไชยากล่าวว่า วันนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.แพร่ และ จ.เชียงใหม่ มีภารกิจปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาหมอกควันและสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 10 และ PM 2.5) โดยใช้เครื่องบิน CASA จำนวน 2 ลำ เครื่องบิน CN จำนวน 1 ลำ ช่วยเหลือพื้นที่ จ.พะเยา แพร่ น่าน คาดการณ์ว่า จะมีฝนตกบริเวณเหนือเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ และจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึง จ.พะเยา ในวันประชุม ครม.สัญจรด้วย

ทั้งนี้ แผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงนี้ จะเน้นช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก และเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางจำนวน 14 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และมีนโยบายถึงการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือ โดยใช้เทคนิคการดัดแปรสภาพอากาศด้วยการโปรยน้ำแข็งแห้ง เพื่อเพิ่มการดูดซับฝุ่นละอองของเมฆให้มากขึ้น

ดร.ไชยา พรหมา

ซึ่งหากได้รับการจัดสรรงบประมาณ จะมีการจัดตั้งโรงผลิตน้ำแข็งแห้งสำหรับใช้ในการช่วยเหลือพื้นที่ภาคเหนือทั้งตอนบนและตอนล่าง จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย