
ต้นทุนหมูไตรมาส 2/2567 ปรับตัวสูงกว่าไตรมาส 1 จาก 69.56 บาท เป็น 72.07 บาทต่อกิโลกรัม น้ำหนักปัจจัยความต่างมาจากต้นทุนลูกสุกรพันธุ์ และอาหารสัตว์ ในขณะที่ฟาร์มครบวงจรย่อลงอยู่ที่ 77.43 บาทต่อกิโลกรัม หลังปรับราคาหน้าฟาร์ม 2 บาท ทะลุ 78 บาท ยังหวุดหวิดขาดทุน
วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายสัตวแพทย์เกียรติภูมิ พฤกษะวัน เลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกรครั้งที่ 2/2567 พิจารณาทบทวนต้นทุนการผลิตสุกรไตรมาส 1/2567 และคาดการณ์ต้นทุนการผลิตไตรมาส 2/2567 สูงขึ้นตามต้นทุนลูกสุกรพันธุ์ในขณะที่วัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลงเล็กน้อย เฉลี่ยทั้งไตรมาสกลุ่มซื้อลูกเข้าขุน อยู่ที่ 72.07 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่กลุ่มฟาร์มครบวงจรต้นทุนไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 77.43 บาทต่อกิโลกรัม โดยมาตรการตัดวงจรการผลิตสุกรที่จะมีเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ จะมี Target Price สำหรับราคาขายสุกรขุนหน้าฟาร์มอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม ที่จะทำให้ผู้เลี้ยงสุกรทั้งระบบสามารถฟื้นตัวจากการขาดทุนอย่างยาวนานได้
กรณีซื้อลูกสุกรมาเลี้ยงขุน ต้นทุนการผลิตทั้งหมดหักผลพลอยได้เฉลี่ยไตรมาส 2/2567 เป็นกิโลกรัมละ 72.07บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 กิโลกรัม ที่ 69.56 บาท เนื่องจากค่าลูกสุกรพันธุ์เพิ่มขึ้น ค่าอาหารปรับลดลงเล็กน้อย อัตราสูญเสียจากการขุน ยังคงใช้ร้อยละ 5
กรณีผลิตลูกสุกรเอง ต้นทุนการผลิตทั้งหมดหักผลพลอยได้เฉลี่ยไตรมาส 2/2567 เป็นกิโลกรัมละ 77.43 บาท ลดลงจากไตรมาส 1/2567 เฉลี่ยที่ 78.27 บาทต่อกิโลกรัม ค่าอาหารปรับลดลงเล็กน้อย อัตราสูญเสียจากการขุน ยังคงใช้ร้อยละ 5 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 กลุ่มนี้ยังคงแบกภาระจากการผลิตลูกสุกร และขายลูกสุกรในราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต
“ติงกรมการค้าภายในรู้ต้นทุนทั้งหมดในขณะที่ความพยายามขยับราคาหน้าฟาร์มเป็นเรื่องที่กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรพยายามลดความเสียหายจากการขายต่ำกว่าต้นทุน”
นายสัตวแพทย์เกียรติภูมิ ให้ข้อสังเกตว่ามีความพยายามที่จะลดค่าความสูญเสียให้ต่ำลงซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับที่ต่ำมากในระดับ 5% ของการเข้าขุน แต่ในความเป็นจริงค่าความสูญเสียไม่ใช่อยู่ที่ 5-10% เท่านั้น มีความสูญเสียมากกว่านั้น สภาวะโรคระบาดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
อยากให้คณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกรมีความมั่นคง และมีเสถียรภาพในการคาดการณ์ต้นทุนการผลิตสุกรในแต่ละไตรมาส โดยฝากถึงคณะอนุกรรมการผลิตในเรื่องของอัตราการสูญเสียให้พิจารณาอัตราการสูญเสียอีกครั้ง ซึ่งอาจจะมาพิจารณาในการประชุมคาดการณ์ต้นทุนในไตรมาสที่ 3 เพราะปัจจุบันอัตราความสูญเสียมีอัตราที่มากกว่า 5%
สำหรับมาตรการตัดวงจรการผลิตสุกรที่จะมีเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ จะมี Target Price สำหรับราคาขายสุกรขุนหน้าฟาร์มอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม ที่จะทำให้ผู้เลี้ยงสุกรทั้งระบบสามารถฟื้นตัวจากการขาดทุนอย่างยาวนานได้ โดยจะเป็นราคาขั้นต่ำที่อยู่ได้ถ้าราคามีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ ระดับราคาหมูหน้าฟาร์มล่าสุด เมื่อ วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มว่ายังคงทรงตัว มีปรับขึ้นในบางพื้นที่ ปรับขึ้นไปถึง 80 บาทแต่ราคาอย่างเป็นทางการปรากฏดังนี้
- ภาคตะวันตก 72 บาท/กก.
- ภาคตะวันออก 72-78 บาท/กก.
- ภาคอีสาน 76 บาท/กก.
- ภาคเหนือ 75-78 บาท/กก.
- ภาคใต้ 76 บาท/กก.
ลูกสุกรวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2567 1,900 บวกลบ 74
ส่วนระดับราคาจำหน่ายปลีกสุกรเนื้อแดงจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 140-145 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมกับค่าครองชีพในปัจจุบัน