สนช.ผ่านกม.ตอบโต้ทุ่มตลาด ปิดทางเลี่ยงพิกัดนำเข้าเหล็กหนีภาษีเอดี

สนช.ผ่านร่างกฎหมายตอบโต้การทุ่มตลาด แก้ปมเลี่ยงภาษี คาดบังคับใช้ภายใน 6 เดือนจากนี้ ด้านเอกชนหนุนช่วยลดปัญหาเลี่ยงภาษีเอดี นำเข้าเหล็กลดลง 1 ล้านตัน พร้อมคาดความต้องการใช้เหล็กภายในประเทศปี”62 ขยายตัว 6%

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาวาระ 3 ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 มีทั้งหมด 31 มาตรา

การแก้ไขครั้งนี้เพื่อให้กฎหมายมีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเดิมนำเข้าสินค้าโดยไม่ถูกต้อง หรือหลบเลี่ยงภาษีเอดี จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายใน ประกอบกับกฎหมายเดิมยังมีบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับการทุ่มตลาดและการอุดหนุนบางเรื่องที่ยังไม่ครอบคลุมขั้นตอนในทางปฏิบัติทางการค้าระหว่างประเทศ การแก้ไขจึงช่วยให้มีการบังคับมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “สินค้าที่ถูกพิจารณา” และ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ให้รองรับการพิจารณาการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน พร้อมทั้งเพิ่มเติมอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในการออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับการพิจารณาการหลบเลี่ยงและการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การยื่นคำขอให้พิจารณาตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนในนามอุตสาหกรรมภายใน และเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการออกประกาศไต่สวนการทุ่มตลาดและการสุ่มตัวอย่าง การแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการทบทวนการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการขอคืนอากรตอบโต้การทุ่มตลาดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

รวมทั้งกำหนดให้กรมศุลกากรมีอำนาจดำเนินการกับผู้นำเข้าสินค้าที่ไม่ชำระหรือชำระอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุนไม่ครบถ้วนหรือค้างชำระอากรดังกล่าว รวมทั้งพิจารณาคืนอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุนกรณีที่มีการส่งของที่ได้ชำระอากรกลับออกไปนอกราชอาณาจักร นอกจากนี้ ยังแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการอุดหนุนให้สอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนและมาตรการตอบโต้ขององค์การการค้าโลก และแก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน รวมทั้งวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน

ด้านนางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจัยด้านการค้าระหว่างประเทศทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีมาตรการดูแลและปกป้องอุตสาหกรรมภายใน เพื่อให้อุตสาหกรรมของประเทศสามารถแข่งขันและส่งออกได้ ล่าสุด สนช.ได้พิจารณาร่างกฎหมายนี้แล้ว คาดว่าน่าจะมีผลบังคับใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ทั้งนี้ เมื่อมีการประกาศใช้ก็จะทำให้ประเทศมีเครื่องมือในการปกป้องและดูที่มาจากการนำเข้าสินค้า หรือมีการหลบเลี่ยงและทำให้อุตสาหกรรมภายในได้รับผลกระทบ

ด้านนายกรกฎ ผดุงจิตต์ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประกาศร่างกฎหมายฉบับนี้และจะให้มีผลบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ เป็นเรื่องดีจะช่วยลดปัญหาการนำเข้ามาผิดประเภท หรือมีการหลบเลี่ยงอากรเอดี ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายใน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่ามีปริมาณนำเข้าหลบเลี่ยงกฎหมายเอดี เฉลี่ยปีละ 1 ล้านตัน หากกฎหมายฉบับนี้ออกมา เจ้าหน้าที่สามารถพิจารณา ติดตามและป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้าเลี่ยงเอดีได้ทันต่อเหตุการณ์

“เชื่อว่าเมื่อมีการบังคับใช้จะทำให้สินค้าเหล็กที่นำเข้ามาผิดกฎหมาย ลักลอบเข้ามา ลดประมาณลงได้จำนวนมหาศาล สำหรับสถานการณ์การต้องการใช้เหล็กในปี 2562 คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้นประมาณ 5-6% เนื่องจากโครงการลงทุนของภาครัฐ การขยายตัวด้านอสังหาริมทรัพย์ และการเลือกตั้งมีผลต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน ขณะที่การส่งออกก็จะขยายตัวมากขึ้นด้วย”