ปตท.ส่งไม้ต่อ “GGC” ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ B100 แสนตัน แก้ไขปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ ด้าน GGC เผย เดินหน้าโครงการ NBC เฟส 2 เตรียมดึงเนเชอร์เวิร์กส์ร่วมทุน
นายเสกสรร อาตมางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC กล่าวว่า กรณีที่เกิดปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำจากปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มล้นตลาด 3.7 แสนตัน ทางคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมติให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อส่งออก 1 แสนตันนั้น
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- เปิด 10 อันดับทำเลที่ดินกรุงเทพฯ และปริมณฑล แพงสุด-ถูกสุด
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา หากได้ข้อสรุปทาง ปตท.มอบให้บริษัท GGC บริษัทในเครือของ ปตท. เป็นผู้ดำเนินการส่งออก ซึ่งเบื้องต้นทาง GGC คาดว่าจะเป็นการรับซื้อน้ำมันดิบชนิด B100 เพื่อดำเนินการส่งออกต่อไป ซึ่งยังไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาว่าเท่าไร
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า หลังจาก ครม.พิจารณามาตรการให้ ปตท.ส่งออกน้ำมันปาล์มแล้ว ทางกรมการค้าภายในจะเป็นผู้กำหนดรายละเอียดว่าจะส่งออกน้ำมันปาล์มดิบชนิดใด ส่วนราคารับซื้อเบื้องต้นให้ซื้อในราคาตลาด
นายเสกสรรกล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS ดำเนินโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (NBC) เฟสแรกจะใช้เงินลงทุนก่อสร้างไม่เกิน 7,500 ล้านบาท โดยการก่อสร้างจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นโครงการก่อสร้างโรงหีบอ้อย มีกำลังการผลิต 24,000 ตันต่อวัน โครงการเอทานอลมีกำลังการผลิต 600,000 ลิตรต่อวัน ประมาณ 186 ล้านลิตรต่อปี และโรงงานผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ มีกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 85 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 457 ตันต่อชั่วโมง
ส่วนระยะที่ 2 ได้มีการศึกษา CellulosicTechnology ร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศ ซึ่งเป็นการนำชานอ้อยมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นผลิตภัณฑ์เคมีชีวภาพ หรือวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าของ NBC ระยะที่ 2 นั้น คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 1-3 หมื่นล้านบาท ตอนนี้อยู่ในช่วงของการศึกษาความเป็นไปได้ในการต่อยอดธุรกิจอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพและเคมีชีวภาพ รวมถึงหาพันธมิตรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และเป็นเจ้าของเทคโนโลยี ซึ่งทาง GGC มองไว้คือ บริษัท เนเชอร์เวิร์กส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีแผนจะตั้งโรงงานผลิตชีวภาพชนิด PLA แห่งที่ 2 โดยทางเราจะนำเสนอข้อได้เปรียบด้านวัตถุดิบเพื่อดึงบริษัท เนเชอร์เวิร์กส์มาลงทุน รวมทั้งเจรจาหาพันธมิตรอื่น ๆ คาดว่าจะได้ข้อสรุปไตรมาส 2-3 ในปีนี้
