อ้อยเข้าหีบแล้ว 126.14 ล้านตัน ได้น้ำตาล 13.92 ล้านตัน ยังคุมเข้มเผาอ้อยย้ำโทษคุก 7 ปี

โรงงานน้ำตาลประเมินปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปี 61/62 ทันก่อนเทศกาลสงกรานต์ หลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูหีบจากการเปิดรับผลผลิตแล้ว 133 วัน มีอ้อยเข้าหีบรวม 126.14 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 13.92 ล้านตัน พร้อมเตรียมแผนเพาะปลูกอ้อยฤดูถัดไป หวั่นวิกฤตภัยแล้งฉุดอ้อยลดลง ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม เผยอ้อยไฟไหม้ลดลงและยังคุมเข้มการเผาอ้อย โทษจำคุก 7 ปี ปรับ 14,000 บาท

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (TSMC) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตในปี 61/62 ที่เริ่มเปิดรับผลผลิตตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลาเปิดหีบอ้อยแล้ว 133 วัน และเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูการผลิตปีนี้

พบว่ามีปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบแล้ว รวมทั้งสิ้น 126.14 ล้านตัน ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 125.81 ล้านตัน และผลิตผลน้ำตาลได้แล้ว 13.92 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 13.80 ล้านตัน และมีค่าความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 12.60 ซี.ซี.เอส. ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 12.52 ซี.ซี.เอส.

โดยมีผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) อยู่ที่ 110.34 กิโลกรัมต่อตันอ้อย เพิ่มขึ้น 0.66 กิโลกรัมต่อตันอ้อย เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียิลด์อยู่ที่ 109.68 กิโลกรัมต่อตันอ้อย

Advertisment

นอกจากนี้ ยังเห็นสัญญาณที่ดีจากปริมาณอ้อยไฟไหม้ พบว่าฤดูการผลิตปีนี้ปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลง จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จำนวน 5% จากปีก่อน 65% มาเป็น 60% ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ให้ตัดอ้อยสดส่งโรงงานน้ำตาลมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม อ้อยไฟไหม้ยังคงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรชาวไร่อ้อยและสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง

“ช่วงนี้ถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูการหีบอ้อยในปีนี้ หลังผ่านมา 133 วัน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบเฉลี่ยต่อวันเริ่มลดลงต่ำกว่า 1 ล้านตันมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าโรงงานน้ำตาลทุกโรงจะสามารถปิดหีบอ้อยทั้งหมดได้ทันก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ และคาดว่าจะมีอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น ประมาณ 130 ล้านตัน” นายสิริวุทธิ์กล่าว

ทั้งนี้ โรงงานน้ำตาลได้เตรียมการเพาะปลูกอ้อยสำหรับปี 2562/63 โดยการจัดส่งฝ่ายไร่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือชาวไร่ในการเพาะปลูกอ้อยข้ามแล้ง เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้จะยาวนานและมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมให้ดำเนินการจัดเตรียมหาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อการสนับสนุนการเพาะปลูกอ้อย หลังจากมีความกังวลว่า ภัยแล้งในปีนี้จะส่งผลต่อผลผลิตอ้อยเข้าหีบในปีถัดไป ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณลดลงกว่าปีนี้

Advertisment

ทางด้าน นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี 2561/2562 ว่าในปีนี้มีโรงงานน้ำตาลทรายเปิดหีบอ้อยทั้งสิ้น 55 โรงงาน ปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบถึงวันที่ 1 เมษายน 2562 มีจำนวน 126.14 ล้านตัน ขณะนี้โรงงานน้ำตาลทรายปิดหีบไปแล้ว จำนวน 24 โรงงาน และจะปิดหีบในวันที่ 11 เมษายน อีก 22 โรงงาน ซึ่งคาดว่าจะปิดหีบทุกโรงงานภายในวันที่ 30 เมษายน 2562

ปัจจุบันมีปริมาณอ้อยคงเหลือเพียงประมาณ 1,500,000 ตัน เท่านั้น และด้วยสถานการณ์หมอกควันและค่าฝุ่นละอองเกินระดับมาตรฐานใน 9 พื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ในขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้กำชับให้หน่วยงานราชการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยการทำงานในพื้นที่ ขอให้ระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมทั้งอาสาสมัครลงพื้นที่ตรวจสอบและปราบปรามการลักลอบเผา หากผู้ใดกระทำความผิดให้จับกุม โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

สำนักอัอยฯ จึงมีหนังสือแจ้งไปยังสมาคมชาวไร่อ้อย และโรงงานน้ำตาล ให้กำชับชาวไร่อ้อยงดการเผาอ้อยก่อนตัดส่งโรงงานน้ำตาล ซึ่งหากมีการเผาอ้อยในกรณีใดก็ตามถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 วรรคแรก ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท และมาตรา 25 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 การกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ