ชงครม.พรุ่งนี้ เคาะราคาประกันมันฯ 2.50 บาทต่อกก.

นบมส. เคาะราคาประกันมันฯ 2.50 บาทต่อกก. เสนอครม.พรุ่งนี้ พร้อมตั้งคณะเฉพาะกิจแก้ปัญหาโรคใบด่าง กระจาย 17 จังหวัด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ครั้งที่ 1/2562 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ เคาะราคาในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในปีการผลิต 2562/63 ที่ราคา 2.50 บาทต่อกิโลกรัม ที่เชื้อแป้ง 25% โดยเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการได้จะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ครัวเรือนละไม่เกิน 100 ตันต่อ 1 ครัวเรือน โดยจะสามารถเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรได้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 นี้ อย่างไรก็ดี มติที่ประชุมในวันนี้ (11 พฤศจิกายน 2562 ) จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

สำหรับโครงการประกันรายได้มันสำปะหลังจะพิจารณาเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ได้เพียงหนึ่งสิทธิ์ต่อครัวเรือนโดยจะเริ่มจ่ายเงินงวดแรกในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 และหลังจากนั้นจะจ่ายทุกวันที่ 1 ตลอดระยะเวลา 12 เดือน โดยคาดว่าเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการอยู่ที่ประมาณ 5.4 แสนราย จะใช้งบประมาณอยู่ที่ 9,671 ล้านบาท นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้พิจารณามาตรการ คู่ขนานไปกับโครงการประกันรายได้มันสําปะหลัง สำหรับมาตรการดังกล่าว อาทิเช่น มาตรการการตรวจคุณภาพมันสำปะหลังที่จะเข้าโครงการจะต้อง มีคุณภาพ ไม่มีดินติด เนื่องจากมีปัญหาผู้ประกอบการคิดน้ำหนักในส่วนนี้ด้วย

โดยจะกำหนดให้ผู้ประกอบการลานมันมีเครื่องร่อนดิน เพื่อพิจารณาน้ำหนักเฉพาะมันสำปะหลัง เพื่อให้ได้ราคาที่แท้จริง โดยรัฐบาลจะช่วยวงเงินสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ 3% การกำหนดมาตรการรับซื้อผู้ประกอบลานมันฯทุกรายจะต้องแสดงราคาให้ชัดเจนและรายงานทุกเช้าเพื่อประกอบการตัดสินใจของเกษตรกร นอกจากนี้จะต้องมีการกำหนดสูตรหากเชื้อแป้งมีการปรับเปลี่ยนโดยจะ พิจารณาคำนวณราคาให้มีความเหมาะสมโดยกรมการค้าภายในจะเป็นผู้พิจารณาและออกประกาศ

เครื่องชั่งตวงวัด เครื่องวัดปริมาณเชื้อแป้งจะต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานชั่งตวงวัดของกรมการค้าภายใน การส่งเสริมมาตรการการส่งออกไปต่างประเทศให้กรมการค้าต่างประเทศมีความเข้มงวดและออกใบรับรองการส่งออกมันสำปะหลังที่มีคุณภาพ ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ขยายวงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาทเพื่อปล่อยกู้ให้กับสถาบันเกษตรกรรับซื้อมันสำปะหลังเพื่อเก็บและแปรรูป โดยเฉพาะช่วงที่ผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากโดยรัฐบาลจะช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำ 3%

ส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกมันในการเพิ่มผลผลิตโดยใช้น้ำหยดและโซล่าเซลล์ ธกส.มีวงเงินกู้ประมาณ 1, 150 ล้านบาท โดยให้เกษตรกรรายละไม่เกิน 230,000 บาท รัฐบาลจะช่วยดอกเบี้ย 3% ในระยะเวลา 2 ปี

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังพิจารณาในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องของโรคใบด่างในมันสำปะหลัง เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ภายในประเทศและการผลักดันการส่งออก โดยที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบในการจัดตั้งคณะเฉพาะกิจในการดูแลเรื่องนี โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ดำเนินการ จัดตั้งคณะ พร้อมหามาตรการมานำเสนอให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์จากนี้

จากเดิมที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติในการแก้ปัญหาโรคใบด่างในมันสำปะหลังที่กระจายใน 11 จังหวัดโดยใช้งบประมาณ 248 ล้านบาท แต่ขณะนี้พบว่าโรคดังกล่าวได้กระจายเพิ่มอีก 6 จังหวัดรวมเป็น 17 จังหวัด ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรมีคณะเฉพาะกิจเข้ามาดูแลและหามาตรการในการแก้ไขเรืรองนี้ ทั้งในพื้นที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์และไม่มีกรรมสิทธิ์

นอกจากนี้ ในส่วนของการผลักดันการส่งออกกระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะผลักดัน การส่งออกมันสำปะหลังครั้งตลาดเดิมเช่นประเทศจีนโดยจะเร่งรัดจัดกิจกรรมการส่งเสริมการส่งออกตลาดอียูจากเดิมที่ประเทศไทยมีโควตานำเข้ามันสำปะหลังอยู่ที่ประมาณ 10,000 ตัน เป้าหมายจะขยายโควต้าเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งเท่าโดยจะเร่งเจรจาเพื่อให้เห็นผลชัดเจนในการปี 2563 นี้ ส่วนตลาดใหม่ เช่น ตุรกี นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์อินเดีย จะเร่งรัดจัดกิจกรรมและผลักดันการส่งออกต่อไป