“มนัญญา” เฟ้นหา 500 คนรุ่นใหม่ ปูพรม 17 นิคมสหกรณ์ แมชชิ่งธุรกิจเกษตร

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพเกษตรกร ว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ มีเป้าหมายที่จะสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักอาชีพการเกษตรเพื่อสานต่ออาชีพการเกษตรของครอบครัว โดยจะสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมอาชีพการเกษตรที่มั่นคงให้กับคนรุ่นใหม่ และถ่ายทอดความรู้การทำเกษตร จัดหาปัจจัยการผลิต บริการเครื่องจักรและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ สนับสนุนโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนประกอบอาชีพ และแนะนำช่องทางการจำหน่ายผลผลิตสู่ตลาด เบื้องต้นตั้งเป้ารับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 500 คน โดยกรมฯจะดำเนินโครงการ 3 ปี ระหว่างปี 2563-2565 ในการพัฒนาและบ่มเพาะอาชีพการเกษตรเพื่อให้เป็นเกษตรกรที่มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง

ทั้งนี้ ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ที่มีความตั้งใจที่จะหันมาประกอบอาชีพทำการเกษตร ที่มีอายุไม่เกิน 50 ปี มีความสมัครใจ และต้องมีที่ดินเป็นของตัวเองหรือสามารถเช่าที่ดิน เพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ หรือหากไม่มีที่ดินทำกิน กรมฯจะจัดสรรที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์ ซึ่งมีอยู่ 17 แห่ง พื้นที่ 639 ไร่ เพื่อให้เข้าไปใช้ประโยชน์ในลักษณะการทำเกษตรแบบแปลงรวม โดยกรมฯจะประสานหน่วยงานต่างๆ เข้ามาให้การสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ในการทำการเกษตร ทั้งการปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา และทำปศุสัตว์ ตามความประสงค์ที่แจ้งไว้ในใบสมัครต่อไป

“สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมได้ทางเว็บไซต์กรมส่งเสริมสหกรณ์ หรือที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ และสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคมนี้ และจะประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ในวันที่ 2 มีนาคม 2563 หลังจากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลในเรื่องนี้โดยจะดึงบุคลากรจากทุกกรมที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันพัฒนาโครงการนี้ต่อไป” นางสาวมนัญญากล่าว

นางสาวมนัญญากล่าวว่า ส่วนในเรื่องของความคืบหน้าการยกเลิกใช้ (แบน) สารเคมี 3 ชนิด นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสต๊อกสารเคมีว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าไหร่ คาดว่าในสัปดาห์นี้จะรวบรวมข้อมูลส่งไปที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย กระทรวงอุตสาหกรรม ก่อนที่จะมีการแถลงให้ประชาชนรับทราบต่อไป ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลในขณะนี้ยังไม่พบการฝ่าฝืนนำเข้าสาร 3 ชนิดเพิ่มเติม และเชื่อว่าจากการควบคุมดังกล่าวจะทำให้จำนวนสาร 3 ชนิดที่มีอยู่ในประเทศลดลงในที่สุด ทั้งนี้ ยังคงยืนยันในนโยบายเดิม แต่ยอมรับว่า ยังไม่รู้ว่าปัญหานี้จะลงเอยด้วยวิธีใด แต่จะเดินหน้าทำตามกระบวนการลด ละ เลิก การใช้