“คูโบต้า” เนรมิต 220 ไร่ สู่…ศูนย์นวัตกรรมเกษตร

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คูโบต้า กรุ๊ป ได้ฉลองครบรอบ 130 ปี ณ ประเทศญี่ปุ่น นับเป็นปีและก้าวสำคัญของการเปลี่ยนผ่านจากแรงงานสู่นวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร นำมาสู่การเปิดตัว “ศูนย์นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ” ที่ จ.ชลบุรี บนเนื้อที่ 220 ไร่ ที่สยามคูโบต้าหวังให้เป็นจุดเปลี่ยนภาคเกษตรไทย

ปั้นนวัตกรรมแทนแรงงาน

นายทาคาโนบุ อาซึมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2563 บริษัทเตรียมเพิ่มงบฯลงทุน เพื่อพัฒนานวัตกรรม 300 ล้านบาท แบ่งเป็นพัฒนาคูโบต้าฟาร์ม โรงงานนวนคร และอมตะซิตี้ โดยมุ่งเน้นปรับเทคโนโลยีให้สอดรับกับกลุ่มพืชไร่ 150 ล้านบาท และอีกส่วนจะใช้พัฒนาคูโบต้าฟาร์มที่ จ.ชลบุรี พื้นที่ 220 ไร่ ให้มี 9 โซน เพื่อเป็นฐานการเรียนรู้เกษตรกรครบวงจรของไทยและอาเซียน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้

โดยจากที่สยามคูโบต้ามุ่งวิจัยและพัฒนาเพื่อปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทยที่เริ่มขาดแคลนแรงงาน ส่งให้ปีที่ผ่านมามียอดขาย 54,000 ล้านบาท ขยายตัว 10% จากปีก่อน ซึ่งเป็นตลาดในประเทศ 60% มูลค่า 33,000 ล้านบาท และตลาดส่งออก 40% ไปยังตลาดหลักคือ อาเซียน อินเดีย และออสเตรเลีย มูลค่า 21,000 ล้านบาท

“แม้ว่าปีที่ผ่านมาสงครามทางการค้าส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ราคาสินค้าเกษตรและราคาผลผลิตลดลง ส่งผลให้ภาพรวมของภาคการเกษตรของไทยมีการผันผวน แต่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตร (GDP ภาคเกษตร) ยังเติบโตขึ้น 0.5% โดยมีพืชเศรษฐกิจหลัก เช่น ข้าว และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ราคาอยู่ในเกณฑ์ดี ที่สำคัญคูโบต้าได้ร่วมกับภาครัฐแก้ไขปัญหาโดยการออกนโยบายด้านสินเชื่อ มาตรการประกันรายได้และให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในการซื้อเครื่องจักรเพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนทำให้เป็นอีกปัจจัยบวกช่วยปั๊มรายได้ของเรา”

ส่วนในปีนี้มีแนวโน้มว่าเกษตรกรทั่วโลกให้ความสำคัญเรื่องเกษตรอัจฉริยะและเกษตรอัตโนมัติ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาช่วยบริหารจัดการฟาร์ม เพิ่มคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุน ทำให้คูโบต้าคาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขาย “รถแทรกเตอร์” จาก 35,000 คัน เป็น 38,000 คันได้ ซึ่งจะทำให้ภาพรวม รายได้ขยายตัว 5-10% จากภาพตลาดรวมเครื่องจักรการเกษตรมูลค่ารวม 60,000-70,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเน้นเพิ่มสัดส่วนการส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดในประเทศ

ส่วนสถานการณ์ปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่าตลาดจีน ยังไม่ส่งผลกระทบ ต่อการส่งออกของไทย เนื่องจากเกษตรกรยังใช้เครื่องจักรกล

หนุนสตาร์ตอัพ

นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานจะทำให้ตลาดเกษตรอัจฉริยะเติบโตเฉลี่ยประมาณ 19% ต่อปี จึงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งเทคโนโลยี IOT เซ็นเซอร์ โดรน นวัตกรรมการถ่ายภาพที่ส่งให้เกษตรกรได้แบบเรียลไทม์ (real time) สามารถรู้สถานการณ์ภัยแล้ง น้ำท่วม

นอกจากนี้ สยามคูโบต้ายังให้ความสำคัญในการผลักดัน start up smart farm ร่วมกับสหรัฐ ออสเตรเลีย อินเดีย ในการวางระบบเกษตร ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแผนการตลาดอีกด้วย

คูโบต้าฟาร์มรับนโยบายรัฐ

ในอนาคตมีแผนว่าการก่อสร้างคูโบต้าฟาร์มที่ จ.ชลบุรี จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งภายใต้นโยบายภาครัฐเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้ศูนย์ฟาร์มนำร่องสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ของอาเซียน ตั้งเป้าหมายว่าปี 2565 จะใช้พื้นที่นี้ผลักดันการใช้เศษเหลือทิ้งจากอ้อย มัน และข้าวโพด มาทำชีวมวลที่ตลาดต้องการมากถึง 40,000 ล้านบาท ช่วยลดต้นทุน และเป็นไปตามเป้าหมายรัฐบาลที่ต้องการลดการเผาในภาคเกษตรเป็น 0%

โดยเบื้องต้นได้หารือกับกลุ่ม ปตท. ซึ่งทางคูโบต้าจะใช้เครื่องจักรกลช่วยลดมลพิษด้วย โดยจะจำหน่ายเป็นชิ้นส่วนเพื่อช่วยเกษตรกรที่ไม่มีกำลังซื้อ มากไปกว่านั้น โครงการนี้ยังเป็นมาตรการสอดรับกับนโยบายลดใช้สารเคมี 3 สาร เป็นหนึ่งใน “ทางเลือก” ของเกษตรกรไทย