สรท.วอนผู้ว่า “ธปท.” คนใหม่ ดูแลค่าเงินบาทแข็งค่า-มาตรการช่วยเหลือการเงิน

ท่าเรือ ส่งออก

สรท.คงคาดการณ์ส่งออกไทยปี 2563 ติดลบ 10% วอนผู้ว่า “ธปท” คนใหม่ ดูแลค่าเงินบาทแข็งค่าพร้อมมาตรการช่วยเหลือการเงิน

นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.คงคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2563 -10% หลังจากที่ภาพรวมการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.- มิ.ย.) มีมูลค่า 114,342 ล้านเหรียญสหรัฐฯ -7.09% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นำเข้ามูลค่า 103,642 ล้านเหรียญสหรัฐฯ -12.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 10,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยปัจจัยสำคัญมาจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโอกาสกลับมาระบาดรอบใหม่ในหลายประเทศ อาทิ จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศ เป็นต้น ทำให้หลายประเทศยังคงต้องดำเนินมาตรการ Lockdown ต่อเนื่อง อีกทั้งเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อของประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ขณะเดียวกันสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างประเทศ สหรัฐอเมริกาและจีน มีการประกาศนโยบายตอบโต้ระหว่างกัน อาทิ การปิดสถานกงสุล โดยสหรัฐฯ สั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ขณะที่จีนโต้ตอบด้วยการปิดสถานกงสุลประจำนครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน รวมถึงการประกาศมาตรการคว่ำบาตรบุคลากรระดับสูงเพื่อตอบโต้ระหว่าง 2 ชาติ จีนและสหราชอาณาจักร โดยสหราชอาณาจักรประกาศห้ามการใช้อุปกรณ์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ในเครือข่ายโทรศัพท์มือถือระบบ 5G ของอังกฤษและมีคำสั่งระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง จากการที่ก่อนหน้ารัฐบาลอังกฤษได้เปิดตัวข้อเสนอในการให้สิทธิพิเศษแก่ชาวฮ่องกงที่ถือพาสปอร์ตแบบ British National Oversea ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำกว่าปี 2562 เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกต่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการ work from home ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง และสินค้าเฟอร์นิเจอร์เพื่อการตกแต่งบ้าน และจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด–19 โดยเอกชนมีความคาดหวังว่าจะสามารถพัฒนาวัคซีนจะพร้อมใช้งานได้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจกลับมาสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น

นางสาวกัณญภัคกล่าวว่า ขณะนี้เอกชนต้องการให้รัฐสนับสนุนเร่งรัดดำเนินมาตรการเยียวยาด้านการเงินให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และเสนอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ต้องเข้ามาเพิ่มการค้ำประกันให้กับการกู้เงินของภาคเอกชนจากธนาคารพาณิชย์เป็นรายบริษัท ทั้งนี้ ต้องสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมให้กับ บสย. เพื่อให้มีวงเงินที่เพียงพอ

“ขอให้ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ เข้าใจความเดือดร้อนของภาคธุรกิจ และมุ่งดำเนินการให้สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง อาทิ รักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทให้อยู่ระดับ 34 บาท/เหรียญสหรัฐฯ และผ่อนปรนนโยบายการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ (Soft loan) และขอให้มีการขยายอายุของ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ ให้เป็น 5 ปี“

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สภาผู้ส่งออกฯจะยังไม่ปรับประมาณการการส่งออกของไทยทั้งปี 2563 ใหม่โดยจะมีการประเมินอีกครั้งในเดือนหน้าเพื่อดูทิศทางของการส่งออกของไทย อย่างไรดีในการส่งออกครึ่งปีหากการส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 17,879 ล้านเหรียญสหรัฐจะทำให้การส่งออกของไทยทั้งปีติดลบ 10% นอกจากนี้จากปัจจัยที่เกิดขึ้นประเทศที่ไทยส่งออกขยายตัวเป็นบวกมีเพียงสหรัฐและจีนขณะที่หลายประเทศยังคงส่งออกติดลบ ส่วนทิศทางการส่งออกในสินค้ากลุ่มอาหารยังคงมีทิศทางขยายตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นยังคงส่งออกติดลบ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปกรณ์และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ เป็นต้น