“กฎกระทรวงคลัง” วิธีจัดซื้อพัสดุใหม่

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในกฎกระทรวงเรื่องกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2563 มีสาระสำคัญที่เกี่ยวกับพัสดุที่ได้รับการรับรองและออกเครื่องหมายสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือ Made in Thailand

โดยให้ “ยกเลิก” ข้อ 7 แห่งกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน พ.ศ. 2563 และให้ใช้ หมวด 7/1 พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศแทน โดยกำหนดให้

พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ หมายถึง พัสดุที่ได้รับการรับรองและออกเครื่องหมายสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย (Made in Thailand) โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้พัสดุที่ได้ขึ้นบัญชีรายการพัสดุและบัญชีรายชื่อไว้กับ ส.อ.ท. เป็นวัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน โดยให้หน่วยงานรัฐจัดซื้อจัดจ้าง ดังต่อไปนี้

1) การจัดซื้อ ให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อพัสดุตามวิธีการที่กำหนด กรณีพัสดุที่ต้องการส่งเสริมมีไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศหรือมีผู้ยื่นข้อเสนอจำนวนน้อยราย หรือจำเป็นต้องใช้พัสดุที่ผลิตจากต่างประเทศ

ให้หน่วยงานเสนอผู้มีอำนาจเหนือขึ้นไปพิจารณา หรือหากจัดซื้อพัสดุภายในประเทศจะเป็นประโยชน์น้อยกว่าให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาการจัดหาอะไหล่ที่มีความจำเป็นจะต้องระบุคุณลักษณะเฉพาะและจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ กรณีมีความจำเป็นต้องนำเข้าครั้งหนึ่งที่มีวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือราคาพัสดุนำเข้ามีราคาต่อหน่วยไม่เกิน 2 ล้านบาท

Advertisment

2) การจัดจ้างงานก่อสร้าง หน่วยงานของรัฐจะต้องกำหนดรายละเอียดรูปแบบรายการงานก่อสร้างว่า “ให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพัสดุที่จะใช้ในงานก่อสร้าง” และให้ดำเนินการตามเงื่อนไขต่อไปนี้ คือ ให้หน่วยงานของรัฐใช้เหล็กหรือเหล็กกล้าที่เป็นพัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศก่อน “ไม่น้อยกว่า” ร้อยละ 90 ของมูลค่าหรือปริมาณเหล็กกล้าหรือเหล็กกล้าที่ใช้ในงานก่อสร้างทั้งหมดในครั้งนั้น

แต่หากใช้เหล็กกล้าไม่ครบร้อยละของมูลค่าหรือปริมาณที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐใช้พัสดุประเภทอื่นให้ครบตามร้อยละของมูลค่าหรือปริมาณที่กำหนดไว้ หากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขข้างต้น หน่วยงานนั้นต้องได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจเหนือขึ้นไปหนึ่งชั้นก่อน

3) การจัดจ้างที่มิใช่งานก่อสร้าง ให้หน่วยงานรัฐกำหนดขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของวัสดุหรือคุรุภัณฑ์ที่จะใช้ในงานจ้างว่า “ให้ใช้พัสดุส่งเสริมการผลิตภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของวัสดุหรือคุรุภัณฑ์ที่จะใช้ในงานจ้าง”

ในกรณีการจัดซื้อจัดจ้างที่มีผู้เสนอราคาเป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งมิได้ถือสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศเข้าเสนอราคาแข่งขันกับผู้เสนอราคา
ที่เป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย

Advertisment

หากบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย-นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตาม กม.ไทยเสนอราคา “สูงกว่า” ราคา “ต่ำสุด” ของบุคคลธรรมดาที่มิได้ถือสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ “ไม่เกิน” ร้อยละ 3 ก็ให้จัดซื้อจัดจ้างจากบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย