“บิ๊กฉัตร”ยันสถานการณ์น้ำดีขึ้น ห่วงลำน้ำชีช่วงมหาสารคาม-กาฬสินธุ์ เตรียมชงมาตรการช่วยเหลือกว่า4พันล้านบาทเข้า ครม.

แฟ้มภาพประกอบข่าว

เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2560 เวลา 08.25 น. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ถึงกรณีสถานการณ์น้ำทั้ง 4 ภาคนั้นว่า ที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาขณะนี้ได้ลดการระบายน้ำลงจากสัปดาห์ที่แล้วอีก 500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เหลือระบายน้ำประมาณ 2,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้น้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ลดลงประมาน 50 เซนติเมตร ส่วนทางด้านเหนือเขื่อนได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว

ในส่วนของภาคอีสานนั้น พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า เขื่อนอุบลรัตน์ได้ปรับลดการระบายน้ำเหลือเพียง 20 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน จึงทำให้ลำน้ำพองลดระดับลง และคาดว่าในระยะเวลาอันใกล้จะกลับสู่ภาวะปกติ

ขณะที่ลำน้ำชียังคงมีปัญหาอยู่ในช่วงกลางที่จังหวัดมหาสารคามและกาฬสินธุ์ ที่ทีการระบายน้ำค่อนข้างช้าเนื่องจากมีทางน้ำค่อนข้างคดเคี้ยว แต่คาดว่าจะสามารถคลี่คลายได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนพื้นที่แก้มลิงนั้นได้มีการระบายน้ำออกบางส่วนเพื่อให้เกษตรกรดำเนินการเพาะปลูกได้ในต้นเดือนธันวาคมนี้

ส่วนของภาคใต้นั้นยังคงมีปัญหาในเรื่องพายุที่เข้ามาติดต่อกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิดและลงพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ร่วมมือกับ กระทรวงมหาดไทย กองทัพและกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งในด้านของกระทรวงเกษตรฯได้จัดเครื่องสูบน้ำ 380 เครื่อง และเครื่องมืออื่นๆ รวมแล้วกว่า 500 เครื่อง วางกระจายในพื้นที่ 14 จุดเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และเรื่องของอาหารสัตว์นั้นก็ได้เตรียมวางไว้หมดแล้วเช่นกัน โดยจะใช้อาหารสัตว์ 2,000 ตัน พร้อมให้สัตวแพทย์จากกรมปศุสัตว์ลงอยู่ประจำพื้นที่ด้วย

ในส่วนของการช่วยเหลือฟื้นฟูนั้น พล.อ.ฉัตรชัยระบุว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะนำมาตรการช่วยเหลือประชาชนในวงเงินกว่า 4,000 ล้านบาทเข้า ครม.ในวันนี้ เนื่องจากมีสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนพบว่ามีความเดือดร้อนกว่า 1.6 ล้านครัวเรือน เพิ่มจากเดิม 9 แสนคน นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลืออื่นเช่นการจ้างงาน และเรื่องของการชะลอการชำระหนี้ของเกษตรกร และพร้อมสนับสนุนด้านเมล็ดพันธุ์

Advertisment

ทั้งนี้ยืนยันว่าในฤดูกาลหน้าในเขตชลประทานมีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกอย่างแน่นอน