หอการค้าร่วมหอการค้าต่างประเทศ ถก นายกฯ อัพเดตสถานการณ์เศรษฐกิจ แนะเร่งพัฒนาเศรษฐกิจทันสมัย – การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ตั้งโจทย์ “ยั่งยืน-Go Green”
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้นำ นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chamber of Commerce) รวมถึงผู้แทนจากหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย จำนวน 36 ประเทศ เข้าคารวะและร่วมหารือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เกี่ยวกับสถานการณ์การค้าและการลงทุนในปัจจุบัน รวมถึงปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ทั้งนี้ หอการค้าต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับฟังปัญหาจากกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติในไทย และได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหอการค้า
โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงติดตามประเด็นความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเพื่อลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของชาวต่างชาติอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ของชาวต่างชาติที่เข้ามาธุรกิจในประเทศไทย
รวมถึงเสนอแนะแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศของทั้งในเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาด การเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชน การกระตุ้นเศรษฐกิจ และการฟื้นฟูประเทศ
สำหรับการพบปะหารือนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสำคัญของการค้า การลงทุน และการเดินทางท่องเที่ยวของต่างประเทศในประเทศไทย รวมถึงได้เล่าให้นักธุรกิจชาวต่างชาติได้รับทราบถึงเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ที่กำลังจะเริ่มดำเนินการ รวมถึงได้เน้นประเด็นของการใช้ Digital Transformation เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาทุนมนุษย์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย
นอกจากนั้น ในปัจจุบันรัฐบาลมีความตั้งใจอย่างชัดเจนที่จะพุ่งเป้าพัฒนาการสร้างนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของประเทศไทย
นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่เกิดสถานการณ์โควิด หอการค้าต่างประเทศขอบคุณรัฐบาลไทย รวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดสรรวัคซีนให้กับนักธุรกิจต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของประเทศไทยต่อจากนี้ในมุมมองของหอการค้าต่างประเทศ คือการผลักดันเรื่อง Digital Transformation และ Economic Modernization
พร้อมกับเสนอว่า รัฐบาลควรมีนโยบายในการสร้างความยั่งยืน และนโยบายสีเขียว (Green Policies) ที่บูรณาการเข้ากับความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริม BCG และ ESG อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ หอการค้าต่างประเทศยังมีโครงการต่าง ๆ ที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทย โดยสนใจและติดตามนโยบายของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางในการทำให้เศรษฐกิจของไทยแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น
นายสแตนลีย์ กล่าวด้วยว่า ขอบคุณภาครัฐที่สนับสนุนกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติในไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างกัน โดยหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และส่งเสริมการค้าการลงทุนของต่างชาติในไทย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย