GISTDA เผยผลประเมินมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมจากภารกิจด้านอวกาศและภูมิสารสนเทศ 5 ปี (59-63) ทะลุ 1.1 หมื่นล้าน ชี้แนวโน้มปี 2565 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
วันที่ 25 เมษายน 2565 ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยว่า ได้ทำการประเมินมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมหรือ Social Impact Assessment : SIA ที่เกิดจากการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ รวม 41 โครงการ/แผนงานในช่วงปีงบประมาณ 2563 แบ่งเป็นโครงการในปีงบประมาณ 2563 จำนวน 32 โครงการและแผนงานสนับสนุน 9 แผนงาน มีมูลค่ารวมที่เกิดขึ้นเท่ากับ 3,086.50 ล้านบาท
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อกการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา
ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับจากปี 2559 มีมูลค่ารวม 569.85 ล้านบาท ปี 2560 มีมูลค่ารวม 2,528.55 ล้านบาท ปี 2561 มีมูลค่ารวม 2,691.72 ล้านบาท ปี 2562 มีมูลค่ารวม 2,823.08 ล้านบาท รวมจาก ปี 2559-2563 มีมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท
โดยผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน หรือที่เรียกว่า Social Return on Investment : SROI เท่ากับ 1 : 1.50 หมายความว่า จำนวนเงินงบประมาณการดำเนินงานโครงการของ GISTDA ที่ใช้งบประมาณไปทุก ๆ 1 บาท จะเกิดผลตอบแทนกลับมาในรูปของมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมหรือสร้างประโยชน์ทางสังคมเป็นจำนวน 1.50 บาท สร้างคุณค่าที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน
โดยโครงการและแผนงานที่มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมมาเป็นอันดับ 1 ได้แก่ ด้านการจัดการภัยพิบัติ ตามด้วยด้านการจัดการเกษตร ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการจัดการน้ำ ด้านการจัดการผังเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ และด้านความมั่นคงของรัฐและสังคม ตามลำดับ
นอกจากนี้ GISTDA ยังได้ประเมินความคุ้มค่าโครงการในปี 2564 บางโครงการโดยอ้างอิง CIPP Model ในการประเมินความสำเร็จของโครงการ ประกอบกับพิจารณาจากผลการประเมินผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน หรือ SROI และผลการประเมินความสำเร็จของโครงการในภาพรวม ได้แก่ โครงการระบบบริหารสถานการณ์รองรับการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบที่ 2, โครงการพัฒนาระบบบริหารวิกฤตและการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าเชิงพื้นที่, และแผนการดำเนินงานโครงการสร้างคุณค่าจากระบบภูมิสารสนเทศแบบองค์รวม
ผลการศึกษาชี้ชัดว่าทั้ง 3 โครงการมีผลการประเมินผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน เท่ากับ 1 : 2.54 1 : 2.21 และ 1 : 6.42 ตามลำดับ นับได้ว่าทั้ง 3 โครงการมีความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการ นอกจากนั้นแล้วผลการประเมินโครงการในภาพรวมทั้ง 3 โครงการได้คะแนน 96 94 และ 92 คะแนนตามลำดับจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน
สำหรับการประเมินครั้งนี้ ใช้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการประเมินมาใช้ในการกำหนดแผนงานหรือโครงการในปีงบประมาณในอนาคต อีกทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสนองตอบประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพิ่มมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่องค์กรแห่งคุณค่าการประเมินผลลัพธ์และผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน
มีขั้นตอนการดำเนินการเก็บข้อมูลโดยการเลือกแบบเจาะจง เฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการของ GISTDA ในปีงบประมาณ 2563 โดยดำเนินการศึกษาจากการสนทนากลุ่มและการสัมภาษณ์เชิงลึกเป็นรายบุคคล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยสถิติพื้นฐาน
ได้แก่ ค่าความถี่ และค่าร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ เป็นต้น การวิเคราะห์แผนที่ผลลัพธ์ประกอบด้วยปัจจัยนำเข้า กิจกรรม ผลผลิต และหาข้อสรุปเป็นผลลัพธ์ที่เรียกว่า Outcome หรือ Impact การวิเคราะห์ข้อมูลผลลัพธ์ส่วนเกินโดยให้ค่าน้ำหนักการเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมที่เกิดขึ้น
ปัจจัยสนับสนุนอื่นที่มีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ และอัตราการลงหรือคงที่ของผลสัมฤทธิ์ แล้วหามูลค่าตัวแทนทางการเงินของผลลัพธ์ที่แท้จริงเพื่อคำนวณอัตราส่วนผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน หรือ SROI
เกณฑ์ที่นำมาใช้ในการประเมินมูลค่ารายโครงการ อาทิ การนำข้อมูล/เทคโนโลยี/วิธีการใหม่จาก GISTDA มาสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยลดความเสียหาย เพิ่มมูลค่าทางเศษฐกิจ การนำข้อมูลหรือเทคโนโลยีของ GISTDA มาใช้กับงานวิจัยหรือนวัตกรรมที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ของ GISTDA
สำหรับผลงานที่โดดเด่นในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาของปี 2565 (ตุลาคม 2564-มีนาคม 2565) ภารกิจของ GISTDA ได้ดำเนินการ 2 ด้าน คือด้านอวกาศ และด้านภูมิสารสนเทศ ด้านอวกาศ มีโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา หรือ THEOS-2 ซึ่งตอนนี้ได้พัฒนาดาวเทียมเล็กหรือที่เรียกว่า THEOS-2A สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทีมนักวิจัยของไทยที่ได้เข้าไปร่วมศึกษา ค้นคว้า และวิจัยร่วมกับทีมวิศวกรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจากสหราชอาณาจักร ซึ่งดาวเทียมเล็กนี้จะเป็นดาวเทียมดวงแรกที่อยู่ในระดับ Industrial Grade และกำลังจะเป็นก้าวที่สำคัญในวงการอวกาศของไทยต่อไป
และได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอวกาศเพื่อรองรับการดำเนินงานอย่างครบวงจรในพื้นที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ หรือ space krenovation park อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นั่นคือศูนย์ประกอบทดสอบดาวเทียมแห่งชาติ หรือ Assembly Integration and Test ที่เรียกสั้น ๆ ว่า AIT ซึ่งจะรองรับการสร้างและทดสอบประกอบดาวเทียมและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องที่มีขนาดตั้งแต่ 10 กิโลกรัม ไปจนถึง 500 กิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาบุคลากรด้านการสร้างดาวเทียม และ พัฒนาระบบ Software ที่มีชื่อว่า “เซอร์คอน” หรือ Zircon ซึ่งเป็นระบบโดยใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์การจัดการจราจรทางอวกาศ เพื่อติดตามการเคลื่อนที่ของวัตถุอวกาศ ทำให้สามารถคาดการณ์ทิศทางของวัถตุเหล่านั้นได้
นอกจากนี้ยัง GISTDA ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก หรือ Committee on Earth Observation Satellite ที่เรียกสั้น ๆ ว่า CEOS ซึ่งเป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐของทุกประเทศที่ดำเนินงานในด้านของกิจการอวกาศ
ส่วนผลงานด้านภูมิสารสนเทศ GISTDA มีนโยบาย GI FOR ALL ที่จะมุ่งเน้นใช้เทคโนโลยี ข้อมูล และระบบ ให้สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ และบริหารจัดการในเชิงนโยบาย โดยพัฒนาและ แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” มีให้ดาวน์โหลดทั้ง IOS และ Andorid ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างง่าย ๆ ด้วยตัวเอง อัพเดตตลอดเวลาในการติดตามค่าฝุ่นละออง PM 2.5 โดยแอปพลิเคชั่นนี้เป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานอื่น ๆ โดยประชาชนสามารถใช้งานได้ฟรี
ผลงานต่อมาคือความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ที่เราจะพัฒนาระบบร่วมกันและใช้เป็นวอร์รูมเดียวกันในการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศในด้านต่าง ๆ ได้อย่าง Near Realtime ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลน้ำท่วม ข้อมูลไฟป่า ข้อมูลดินสไลด์ และจะพัฒนาเป็นรูปแบบเรียลไทม์ในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกรมราชทัณฑ์เองก็มีความสนใจที่จะใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ของทางกรมทั่วประเทศกว่า 140 แห่ง อีกทั้งทาง GISTDA กำลังพัฒนาระบบ Open Platform ที่ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ได้หลากหลายเรื่อง ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานเร็ว ๆ นี้