ทุ่ม 1.14 หมื่นล้านลุยไฮบริด ประเดิมมาสด้า 3 ถล่มตลาด-

มาแน่ มาสด้า 3 ไฮบริด ชี้เงื่อนไขชัดเจนลุยทันที เผยปีหน้าได้สัมผัสแน่ ส่วนยอดขายปีนี้ทะลุ 6 หมื่นคัน

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนรุกตลาดกลุ่มรถยนต์ไฮบริดของมาสด้าน่าจะเป็นรูปเป็นร่างเร็วนี้ โดยมาสด้าขอรับส่งเสริมด้วยเม็ดเงินลงทุนจำนวน 11,400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ภายในปี 2562 และหากเงื่อนไขประกอบกับรายละเอียดชัดเจน ลูกค้าอาจได้เห็นรถมาสด้าไฮบริดในประเทศไทยให้เร็วขึ้นด้วย

สำหรับรุ่นที่น่าจะทำได้ ปัจจุบันมาสด้ามีการผลิตรถยนต์ไฮบริด เพื่อขายในประเทศญี่ปุ่นเป็นมาสด้า3 ไฮบริด และมีความเป็นไปได้ที่จะนำโมเดล 3 ไฮบริดมาผลิตในประเทศไทย รวมทั้งโมเดลอื่น ๆ ก็พยายามพัฒนาไปพร้อมกันด้วยเช่นเดียวกัน

“โครงการนี้รายละเอียดปลีกย่อยน่าจะเยอะแต่ยังไม่ชัดเจน และค่ายรถยนต์แต่ละค่ายที่เข้าร่วมโครงการนี้เริ่มต้นไม่พร้อมกัน สถานการณ์แตกต่างกัน ทั้งช่วงอายุผลิตภัณฑ์ กรอบระยะเวลาที่ไม่เหมือนโครงการอีโคคาร์ที่ทุกค่ายต้องเริ่มนับหนึ่งพร้อม ๆ กัน หลักเกณฑ์เดียวกัน อีกประเด็นหนึ่งที่อยากสะท้อนคือไม่ควรยึดติดกับเทคโนโลยี แต่อยากให้พิจารณาผลลัพธ์ที่ออกมา โดยเฉพาะการปล่อยไอเสีย”

ส่วนภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้ตลาดน่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% หรือมากกว่า 920,000 คัน มาสด้าตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 คัน โต 15% และมีส่วนแบ่งตลาด 6% เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ผ่านมาซึ่งมียอดขายที่ 51,355 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 5.9%

โดยปีนี้จะเน้นบริการทั้งก่อนและหลังการขายด้วยการเสริมศักยภาพของทีมงาน รวมถึงการแนะนำรถรุ่นปรับปรุงใหม่เข้าสู่ตลาดอีก 4 รุ่น ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การสื่อสารที่ฝ่ายการตลาดได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปีนี้จะเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว โดยเริ่มจากพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน ภายใต้รูปลักษณ์และคอนเซ็ปต์ใหม่ของมาสด้า หรือ Mazda Corporate Identity ซึ่งเป็นรูปแบบโชว์รูมที่มาสด้าได้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์รูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในโชว์รูม โดยขณะนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงไปแล้วประมาณ 40% ของ 147 แห่งทั่วประเทศ

และปีนี้บริษัทจะเดินหน้าเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการอีก 12 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ลูกค้ากับมาสด้าใกล้ชิดกันมากขึ้น ด้วยรูปแบบการสื่อสารทางออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งมาสด้าได้ทำอย่างครอบคลุมด้วย