เปิด “หุ้นเด่นปีจอ” เเบงก์-ก่อสร้าง-นิคมอุตฯอีอีซี มาเเรง รัฐบาลสปีดโค้งสุดท้าย กระตุ้นลงทุน

ธนาคารกสิกรไทย จัดงานสัมมนา “ทิศทางเศรษฐไทยเเละหุ้นเด่นปีจอ” โดยนายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเเนวโน้มเศรษฐกิจไทย เเละหุ้นเด่นที่น่าจับตามองในปีนี้ 

@ภาคบริโภคขยับขึ้น หนุนหุ้นทุนค้าปลีก

ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กสิกรไทย กล่าวว่า ตัวเลขการนำเข้าสินค้าอุปโภค-บริโภคในปีนี้ พบว่าดีดขึ้นมาประมาณ 6% สะท้อนว่าคนที่มีรายได้ปานกลางไปจนถึงคนที่มีรายได้สูง มีการจับจ่ายใช้สอยที่ดีขึ้น เเต่ปัญหาที่เห็นได้ชัดคือประชาชนรายได้น้อย มีกำลังซื้อน้อยลง โดยสาเหตุมาจากรายได้ส่วนภาคเกษตรของปีที่เเล้ว ที่ขยับตัวดีขึ้นเเค่ครึ่งปีเเรก เเต่ครึ่งปีหลังลดฮวบ ส่วนรายได้นอกภาคเกษตรเริ่มได้เห็นการส่งผ่านการส่งออกที่ดี ทำให้ภาคเอกชนขยับตัว

“การที่กระทรวงการคลังจี้ไปที่การกระตุ้นผู้มีรายได้น้อย เป็นการจิ๊กซอว์ที่ดี รวมไปถึงการขึ้นอัตราค่าเเรงขั้นต่ำที่ขึ้นโดยเฉลี่ย 3-4% ถึงยังน้อยเเต่ก็ยังดีกว่าไม่ขึ้น ทำให้คนก็จะกล้าที่จะซื้อของมากขึ้น โดยปีนี้ภาพรวมน่าจะดีกว่าปีที่เเล้ว”

เมื่อการบริโภค-บริโภคปรับตัวในประเทศดีขึ้น เอกชนเเละกลุ่มทุนในตลาดหุ้นก็จะได้ประโยชน์ โดยชัดเจนมากที่สุดคือกลุ่มค้าปลีก เช่นกลุ่มซีพี ออลล์ มีโอกาสจะทะยานไปสู่เลขสองหลักเข้าสามหลักได้ไม่ยากในปีนี้ ส่วน CPM จะได้ประโยชน์ในกลุ่มคนรายได้ปานกลางเเละรายได้สูง ฝั่ง ROBINS จะเจาะคนได้ทุกกลุ่มตั้งเเต่ล่าง กลาง สูง

Advertisment

“ภาคตลาดหุ้นที่มีผลต่อเศรษฐกิจระดับประเทศ มีเเววจะดีขึ้นได้ เนื่องจากปีนี้รัฐบาลมี action plan กว่า 55 โครงการ เเละเเม้ว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาจะมีเเผน 2.2 ล้านล้านบาท เเต่มีการลงทุนจริงเเค่ 4 เเสนล้าน เเต่ปีนี้เเม้ว่าจะมีการเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ เเต่อย่างน้อยอายุของรัฐบาลก็จะน้อยลง เมื่อเหลือน้อยก็ลงเราจะได้เห็นการเร่งปั๊มโครงการออกมาเร็วขึ้น อะไรที่เคยล่าช้ามา 3 ปี ปีนี้น่าจะเร็วขึ้น เพราะเป็นโค้งสุดท้ายเเล้ว”

@หุ้นก่อสร้าง-นิคมฯ รับลงทุนอีอีซี-ผลตอบเเทนดี

เมื่อรัฐปล่อยโครงการโครงสร้างพื้นฐานออกมา กลุ่มทุนที่จะได้รับผลประโยชน์กลุ่มเเรก คือ กลุ่มทุนรับเหมาก่อสร้าง โดยหุ้นที่น่าสนใจคือ STECON , PYLON เชื่อว่าจะได้รับผลตอบเเทนที่ดี เเละตอนนี้ราคาหุ้นถูกมาก เนื่องจากโดนกดดันเรื่องค่าเเรงขั้นต่ำ อย่างไรก็ดียังมองว่าผลกระทบจะน้อยมาก

Advertisment

ต่อมาเรื่องที่จะเห็นได้ชัดในปีนี้คือ โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งหากมีกฎหมายออกมา เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจำนวนมากจะเข้ามาเเน่นอน โดยกลุ่มทุนที่จะได้ประโยชน์ก็คือ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เเต่ตอนนี้ราคาหุ้นปรับลดลงเนื่องจากการเข้ามาของกลุ่มซีพี ที่กำลังจะเข้ามาทำนิคมอุตฯ ซึ่งเป็นปัจจัยระยะสั้น เเต่สุดท้ายเเล้วในช่วงที่พ.ร.บ.อีอีซีจะใกล้ออกเป็นกฎหมาย ก็จะเห็นการฟื้นตัวขึ้นมาอีก โดยหุ้นที่น่าสนใจคือ AMATA , WHA , TICON เป็นโอกาสที่ควรจะซื้อเก็บไว้

@ยก “หุ้นธนาคาร” เป็นพระเอกปีนี้

ขณะเดียวกัน ภาคการลงทุนในประเทศของเอกชนตอนนี้ มีการขยายตัวชัดเจนมาก โดยเฉพาะเรื่องของการนำเข้า เเม้ก่อนหน้านี้จะเห็นว่าไทยส่งออกดี เเต่นำเข้าไม่โต อย่างไรก็ตามตั้งเเต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมาสัญญาณการนำเข้าที่เเรงมาก เห็นการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบเเละเครื่องจักรเข้ามา สะท้อนถึงการลงทุนของภาคเอกชนได้ รวมไปถึงการนำเข้าราคาพลังงานเเละน้ำมัน

ดังนั้นเมื่อมีการลงทุนเอกชนมากขึ้น เเต่จะไปไหนไม่ได้ถ้าไม่มี “ไฟเเนนซ์” เป็นเเหล่งเงินทุน ทำให้หุ้นของกลุ่มธนาคารพาณิชย์น่าสนใจ โดยศูนย์วิจัยกสิกรปีนี้ให้น้ำหนักเเบงก์พาณิชย์อย่างมาก ให้เป็นพระเอกเบอร์ 1 ที่จะนำตลาดได้

“ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติยังไม่ได้ขยับมาตลาดหุ้นไทย เเต่เชื่อว่าไม่นานคงเข้ามาเเน่ เเต่เมื่อเข้ามาเเล้วก็ยังมีความเสี่ยงที่จะออกไป โดยเรามองว่าต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจธนาคาร เพราะถ้าเศรษฐกิจโตขึ้น กลุ่มที่จะตอบรับกลุ่มเเรกคือธนาคาร ซึ่งตอนนี้มีราคาถูก ตัวเอกของกลุ่มธนาคาร ได้เเก่ BBL , Kbank , TISCO”

@หุ้นอสังหาฯ ยังไปได้อีก – ชี้เศรษฐกิจไทย “เพิ่งฟื้นตัว”

ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้ดอกเบี้ยไทยยังต่ำ เเต่เชื่อว่าต่อไปจะต้องขึ้นอย่างเเน่นอน ทำให้จะได้เห็นการออกโปรเจ็กต์ ออกโครงการต่างๆ อย่างมากมายของภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะมีโปรโมชั่นจูงใจอย่าง “ถ้าไม่ซื้อในปีนี้ ปีหน้าดอกเบี้ยขึ้นโหดเเน่ๆ” ทำให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาบูมอีกครั้งในปีนี้ ก่อนอัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้น โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้เเก่ SC ,QH, SPALI ,ORI  เป็นตัน

“วงจรเศรษฐกิจ ช่วงหดตัว-ฟื้นตัว-ขยายตัว-อิ่มตัว เเล้วกลับมาวนลูปอีกครั้ง คำถามคือเราอยู่ที่ช่วงไหน ผมมองว่าจะอยู่ในช่วง “เพิ่งฟื้นตัว” เพราะก่อนหน้านี้เรานิ่งเงียบมานานมาก จากตัวเลขจีดีพีที่ 2-3 ปีก่อนขยับตัวช้ามาก เพิ่งจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3-4 ในปีที่ผ่านมา ส่วนไตรมาส 1 ปีนี้โต 3.2 % ไตรมาส 2 โต 3.7% ไตรมาส 4 อาจจะโตได้ 5% เพิ่งเริ่มเห็นการไต่เเบบขั้นบันได้ ฉะนั้นเศรษฐกิจไทยเพิ่งเริ้มฟื้น ตลาดหุ้นที่ทำนิวไฮ เเต่มาด้วยคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน มาด้วยคุณภาพของเอกชนในไทยที่เเข็งเเกร่ง ทนทานทุกสภาวะยิ่งกว่าเเมลงสาบ เราอดทนมามากทั้งเรื่องการเมืองเเละปัจจัยอื่น  เเล้วในปีนี้เศรษฐกิจทุกอย่างกำลังเป็นใจ บริษัทจดทะเบียนได้เวลาโตเเรงๆเเล้ว”

อย่างไรก็ตาม ประกิตบอกว่า ในขณะที่เห็นอะไรดีมากๆ ก็ยังต้องระมัดระวังตัวเสมอ เเต่คิดว่าถ้าเรายังอยู่ในวงโตจรของเศรษฐกิจที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัว จะยังมีช่วงเศรษฐกิจขยายตัวรออยู่ ดังนั้นตลาดหุ้นยังมีพื้นที่ให้ปรับขึ้นได้ เเม้ตอนนี้อาจเข้าใกล้เป้าหมายที่กสิกรวางไว้ที่ 1,835 จุด เเต่ถ้ามีอะไรเข้ามาเกินที่คาด เช่น นักลงทุนต่างชาติกลับใจเข้ามาซื้อ เม็ดเงินที่จะเข้ามาลงทุนคาดไว้ที่ 1.8 เเสนล้านบาท ก็จะทำให้ SET INDEX ของตลาดหุ้นไทยน่าจะทะยานไป 1970 จุดได้ไม่ยาก

ขณะที่การส่งออกปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรคาดการณ์ว่าจะโตต่อเนื่อง เเต่โตในอัตราที่ช้าลงที่ 4.5% ส่วนภาพรวมค่าเงินบาท ปีที่เเล้วมีการเเข็งค่ามากจากสถานะการเงินการคลังที่เเข็งเเกร่ง การค้าเกินดุล บัญชีเดินสะพัดสูง เเต่เหตุปัจจัยเหล่านี้ไม่สามารถนำมาใช้กับปี 2561 ได้ เพราะการนำเข้าที่สูงขึ้นมาก รวมถึงการนำเข้าราคาพลังงานสูงขึ้นด้วย ทำให้ปริมาณการเกินดุลการค้าจะน้อยลงเเละค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงในช่วงกลางปี

“หุ้นในกลุ่มส่งออกอิเลิกทรอนิกส์ กลุ่มส่งออกอาหาร ช่วงเวลาที่น่าเข้าซื้อคือรอให้พ้นไตรมาส 1 ไปก่อน ให้ผลประกอบการออกมาเเล้วค่อยเข้าไปเก็บ เพื่อลุ้นการรีบาวน์ของค่าเงินบาท”