McKinsey เผยเศรษฐกิจชะลอตัว กดดันกำไรธนาคารไทยหดตัว แนะ 4 ทางรอด

การลงทุน-กองทุน

บริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) หรือ McKinsey เผยรายงานในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว อุตสาหกรรมเจอภาวะผลกำไรลดลง ยันภาคธนาคารไทยยังแข็งแกร่ง มีโอกาสที่จะพลิกกลับขึ้นมาเป็นผู้นำระดับภูมิภาคได้ พร้อมเปิด 10 แนวทางสำคัญ ภายใต้ 4 วาระการเปลี่ยนแปลงภาคธนาคารไทยสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อกลับมาสร้างการเติบโตและเพิ่มผลกำไรได้

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 บริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จํากัด หรือ McKinsey ออกรายงานฉบับใหม่ภายใต้หัวข้อ “กำหนดอนาคตอุตสาหกรรมธนาคารไทย : สร้างเป้าหมายใหม่เพื่อจุดประกายการเติบโต (Shaping the future of Thai banking : Reinventing purpose to ignite growth)” ที่เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของภาคธนาคารที่จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป และการเตรียมความพร้อม รวมถึงเตรียมศักยภาพขององค์กรต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อกระตุ้นการเติบโตและสร้างผลกำไรที่ดีขึ้น ด้วยการกำหนดเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ใหม่อย่างตรงจุด

โดยรายงานดังกล่าวได้เขียนขึ้นในช่วงที่ภาคธนาคารของไทยเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยราคาหุ้นของธนาคารไทยมีการซื้อขายต่ำกว่าหุ้นอื่น ๆ ในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ โดยธนาคาร 5 อันดับแรกมีอัตราส่วน Price to Book (P/B) อยู่ที่ 0.7 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่อยู่ที่ 1.8 ในส่วนของระดับภูมิภาค

สัดส่วนมูลค่าตลาดของธนาคารในประเทศไทยจากมูลค่าตลาดรวมของธนาคารในอาเซียนลดลง 16% ในปี 2552 เหลือเพียง 9% ในปี 2564 ซึ่งทำให้ธนาคารจากอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ขึ้นมาอยู่ในรายชื่อธนาคารที่มีมูลค่าสูงสุด 15 อันดับแรกในภูมิภาค แทนที่ธนาคารไทยหลายแห่ง

ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับธนาคารไทยในปรับเปลี่ยนองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและวาระแห่งชาติที่มีการปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญ การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากรของประเทศ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้
“ธนาคารไทยมีโอกาสที่จะสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ”

นายวาจี๊ด อาห์เหม็ด, Partner บริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า การที่จะบรรลุเป้าหมายนี้อย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น ธนาคารไทยอาจพิจารณาที่จะมุ่งเน้นไปที่ 3 แนวทางสำคัญ ได้แก่ การทบทวนเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคารเพื่อให้การสนับสนุนธุรกิจในเศรษฐกิจยุคใหม่ (new economy) การส่งเสริมการเงินเพื่อความยั่งยืน เพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero)

และเพิ่มการเข้าถึงเงินทุนของ SMEs โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล หากการไม่เริ่มเปลี่ยนแปลงจะทำให้ธนาคารไทยเผชิญความเสี่ยงสูงในอนาคต

ในขณะเดียวกันหากธนาคารไทยสามารถเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จ ก็มีแนวโน้มที่ผลตอบแทนที่ได้กลับมาจะเป็นไปในเชิงบวกเช่นเดียวกัน เพื่อให้อุตสาหกรรมธนาคารไทยยังคงความสำคัญต่อไปในทศวรรษข้างหน้า McKinsey เผย 10 แนวทางสำคัญ ภายใต้วาระการเปลี่ยนแปลง 4 ส่วน เพื่อช่วยให้ธนาคารไทยสามารถกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ใหม่ได้อย่างตรงจุด

ส่วนที่ 1 : สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ทบทวนเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคารเพื่อส่งเสริมธุรกิจในเศรษฐกิจยุคใหม่ (new economy) ส่งเสริมการเงินเพื่อความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) เพิ่มการเข้าถึงเงินทุนของ SMEs โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล

ส่วนที่ 2 : สร้างโมเดลธุรกิจที่มีความคล่องตัวและเฉพาะทาง สร้างโมเดลธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งเฉพาะทางสำหรับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน เชี่ยวชาญด้านบริการสินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่อยในยุคดิจิทัล
แสวงหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อสร้างธนาคารยุคใหม่ ที่เน้นการสร้างระบบนิเวศ และแพลตฟอร์ม โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

ส่วนที่ 3 : พัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงานด้วยนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ให้ข้อเสนอและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้าในรูปแบบที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล (Personalization at scale) ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน และสร้าง Value Proposition สําหรับพนักงานอย่างเหมาะสม

ส่วนที่ 4 : สร้างความพร้อมและศักยภาพขององค์กรสำหรับอนาคต เร่งนำเทคโนโลยีใหม่มาปรับใช้
เสริมความปลอดภัยในโลกไซเบอร์เพื่อต่อสู้กับ “ด้านมืด” ของโลกดิจิทัล “ปัจจุบันธนาคารไทยถือว่ากำลังอยู่ในจุดที่ต้องตัดสินใจ

นายเรนนี่ โทมัส, Senior Partner และ Asia Banking Practice Leader บริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า หากภาคธนาคารไทยสามารถเริ่มลงมือเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ธนาคารไทยสามารถกลับขึ้นมาเป็นผู้นำระดับภูมิภาคได้อีกครั้ง การรับแนวทางใหม่มาปรับใช้ นำเสนอบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่

รวมถึงสร้างความสามารถและศักยภาพในการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล จะทำให้ธนาคารไทยมีความพร้อมมากขึ้นในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้านโครงสร้างประชากร ความต้องการของผู้บริโภค และโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว การไม่ลงมือทำอาจมีความเสี่ยง แต่ผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จนั้นก็มีโอกาสที่จะเป็นผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจเช่นกัน