บลจ.อีสท์สปริง เสนอขาย “กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐบาล 1Y8” (ES-GOV1Y8) เป็นกองทุนเทอมฟันด์อายุ 1 ปีลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ชี้โอกาสสร้างรับผลตอบแทน 1.60% ต่อปี เสนอขาย 9-15 มี.ค.นี้
วันที่ 9 มีนาคม 2566 นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า ขณะนี้ความต้องการกองทุนประเภทเทอมฟันด์ยังมีอย่างต่อเนื่อง
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทดัง เปิดขายเดือน พ.ค.นี้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.20%
โดยเป็นความสำเร็จจากการขายกองทุนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 1 ปี ที่สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนจำนวนมากที่กำลังมองหาโอกาสรับผลตอบแทนที่แน่นอนภายใต้ความเสี่ยงต่ำ
บริษัทจึงเตรียมเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐบาล 1Y8” (ES-GOV1Y8) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 9-15 มีนาคม 2566 นี้
โดยกองทุนนี้มีนโยบายนำเงินไปลงทุนในตราสารภาครัฐ อาทิ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ในอัตราส่วนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน ซึ่งกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging)
ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยในสัดส่วน 100% ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 1.75% ต่อปี โดยหลังจากหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.15% ต่อปีของ NAV แล้ว คาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 1.60% ต่อปีของ NAV
สำหรับกองทุน ES-GOV1Y8 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐ จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก โดยจะลงทุนครั้งเดียว และถือทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold)
โดยบริษัทจะดำเนินการให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บริษัทจัดการเปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ
อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ โดยผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 1 ปีได้ ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว
ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และบริษัทจัดการจะสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ