DELTA ราคาหุ้นเช้านี้ ดิ่งหนัก -14.7% เกิดจากอะไร ?

เดลต้า 27 เมษา 66

DELTA นักลงทุนเทขายทำกำไร ทุบราคาหุ้นดิ่ง 14.7% ทำราคาต่ำสุดช่วงเช้าวันนี้ 764 บาท ก่อนปิดตลาดเช้า ยืนที่ราคา 772 บาท บล.บัวหลวงชี้หมดข่าวดี กำไรไตรมาส 1/66 ต่ำกว่าตลาดคาด ธุรกิจดาต้าเซ็นตอร์ชะลอตัว ด้าน บล.หยวนต้า เตือนระวังแรงขายทำกำไร หลังหมดภาวะเชิงจิตวิทยาระยะสั้น ปรับพาร์ใหม่ 28 เม.ย.นี้ ให้ราคาเหมาะสม 61 บาทต่อหุ้น

วันที่ 27 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นของบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA พบว่า เปิดตลาดภาคเช้าวันนี้ด้วยราคา 862 บาท ปรับตัวลดลง 34 บาท หรือลดลงกว่า 3.79% จากราคาปิดวันก่อนหน้า

โดยระหว่างวันราคาหุ้น DELTA ได้ปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ราคา 764 บาท ปรับตัวลดลง 132 บาท หรือลดลงกว่า 14.73% จากราคาปิดวันก่อนหน้า และยืนปิดตลาดภาคเช้าที่ราคา 772 บาท ปรับตัวลดลง 124 บาท หรือลดลง 13.84% จากราคาปิดวันก่อนหน้า

นายนภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาหุ้น DELTA ที่ร่วงหนักในวันนี้ สาเหตุเพราะว่านักลงทุนเห็นจุดที่ต้องเทขายหุ้นแล้ว เนื่องจากข่าวดีของหุ้น DELTA เริ่มสะท้อนกลับมาในราคาหุ้นหมดแล้ว

เดลต้า 27 เมษา 66

ทั้งจากการประกาศวันแตกพาร์ใหม่คือวันที่ 28 เม.ย. 2566 และเมื่อคืน (26 เม.ย.) ได้ประกาศงบการเงินงวดไตรมาส 1/2566 ออกมามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน (YOY) อาจจะต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดเล็กน้อย และในการประชุมนักวิคราะห์เมื่อเช้านี้ (27 เม.ย.) ได้ส่งสัญญาณเชิงลบออกมาในบางเซ็กเตอร์ เช่น ดาต้าเซ็นตอร์ ที่เคยดีอาจจะชะลอตัวลงไปตามภาพเศรษฐกิจโลก รวมถึงภาพอัตรากำไรขั้นต้นที่ยังถูกกดดันจากเรื่องวัตถุดิบต่าง ๆ

ปัจจุบันบัวหลวงได้ดาวน์เกรดคำแนะนำจาก “ซื้อ” ลงมาเป็น “ขาย” มาสักระยะหนึ่งแล้ว กลยุทธ์ลงทุนแนะนำรอจังหวะ (Wait and See) ไปก่อน ให้ปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาก่อน

ด้าน บล.หยวนต้า เปิดเผยว่า ยังคงคำแนะนำ “ขาย” หุ้น DELTA ราคาหุ้นปัจจุบันแพงเกินพื้นฐานแม้ภายใต้สมมุติฐานที่ให้พรีเมี่ยมมากกว่ากลุ่ม โดยในเชิงกลยุทธ์ระวังแรงขายทำกำไรหลังหุ้นหมดประเด็นหนุนเชิงจิตวิทยาระยะสั้นคือ การปรับเป็นพาร์ใหม่ในวันศุกร์ที่ 28 เม.ย. 2566

โดยตลาดอนุมัติให้ DELTA ซื้อขายบนมูลค่าที่ตราไว้ใหม่ที่ 0.10 บาทต่อหุ้น จากเดิมที่ 1.00 บาทต่อหุ้น เริ่มต้นวันแรกในวันศุกร์ที่ 28 เม.ย. 2566 ดังนั้นราคาเหมาะสมบนพาร์ใหม่ของเราจะอยู่ที่ 61 บาทต่อหุ้นในวันดังกล่าว และ EPS กับ DPS จะเปลี่ยนไปตามสัดส่วนหุ้นที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงพาร์ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงมูลค่ากิจการในเชิงพื้นฐาน ดังนั้นนักลงทุนไม่ควรให้น้ำหนักกับประเด็นดังกล่าว

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ความผันผวนของค่าเงินบาท/ดอลลาร์ ภาวะการขาดแคลนวัตถุดิบเกิดขึ้นยาวนานและการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง