ลีสซิ่งกสิกรไทย ปักธงปั๊มสินเชื่อรถครึ่งปีหลังพิชิตเป้า 4.5 หมื่นล้านบาท

ลีสซิ่งกสิกรไทย ปักธงปั๊มสินเชื่อรถครึ่งปีหลังพิชิตเป้า 4.5 หมื่นล้านบาท งัดแผนรุกเสริฟสินเชื่อทุกมิติเจาะตรงลูกค้า ชูกลยุทธ์ Data Analytics เข้าถึงลูกค้าเชิงรุก

ลีสซิ่งกสิกรไทย พร้อมรบปล่อยกู้ต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าสินเชื่อกว่า 4.5 หมื่นล้านรับตลาดรถยนต์ขาขึ้น เดินหน้าให้สินเชื่อครบวงจรโดยเฉพาะช่องทางดิจิทัล ชูระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เสริฟสินเชื่อตรงใจลูกค้าทุกมิติ โดยไม่ต้องรอให้ลูกค้ายื่นขอ ช่วยให้อนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น คาดการณ์ประเมินตลาดรถช่วยได้ปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

นายศาศวัต วีระปรีย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2561 ยอดขายรถยนต์ในประเทศมีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีมียอดขายรวมทั้งสิ้น 316,299 คัน หรือขยายตัวกว่า 15.5% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งทิศทางดังกล่าวยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตตลอดทั้งปีนี้ โดยคาดว่า ช่วงครึ่งปีหลัง ยอดขายรถยนต์ในประเทศน่าจะมีจำนวนประมาณ 484,000 คัน หรือขยายตัวกว่า 5%เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้ภาพรวมชองยอดขายรถทั้งปี น่าจะขยับขึ้นมาปิดที่ 950,000 คัน หรือโตราว 9% จากปี 60

สำหรับทิศทางการเติบโตของยอดขายรถยนต์ ได้รับแรงหนุนสำคัญจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน การเติบโตของภาคธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจ e-commerce ซึ่งมีผลดีต่อธุรกิจขนส่งและภาคบริการ ตลอดจนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเติบโตของด้านธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของระบบธนาคารพาณิชย์ในปีนี้ ที่คาดว่าในครึ่งปีแรกนี้ จะขยายตัวเป็นบวกที่ระดับ 10.5% และมีแนวโน้มสถานการณ์หนี้ที่ค้างชำระเกิน 3 เดือน(NPLs ) จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้น

นายศาศวัต กล่าวว่า ทิศทางกลยุทธ์หลักของลีสซิ่งกสิกรไทย ในปีนี้จะนำร่องใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์สินเชื่อจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Data Analytics ) เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง การนำเสนอวงเงินอนุมัติ จึงทำให้สามารถวิเคราะห์ความต้องการและเข้าใจลูกค้าในมิติที่ลึกขึ้น นำไปสู่การเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการได้ถูกเวลา แม้ว่าลูกค้ายังไม่ได้ยื่นขอฯก็ตาม

“จากที่เราได้เริ่มใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อเสนอสิทธิพิเศษให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ในช่วงงาน Motor Show 2018 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ จึงทำให้ในครึ่งปีหลังนี้ ลีสซิ่งกสิกรไทย เดินหน้าปักธงนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ ทั้งภาคบุคคลและภาคธุรกิจ รวมถึงผนึกกำลังกับผู้แทนจำหน่ายรถยนต์พันธมิตรในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้ตรงใจ รวดเร็ว และสะดวกสบาย ซึ่งคาดว่าการปล่อยสินเชื่อที่จะมาจากการใช้เทคโนโลยี Data Analytics ไว้ราว 500 ล้านบาท พร้อมทั้งวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงเพื่อขยายฐานสินเชื่อคุณภาพดี โดยตั้งเป้า NPL ในปีนี้ไว้ไม่เกิน 1.73%”นายศาศวัต กล่าว

Advertisment

ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ของลีสซิ่งกสิกรไทย ได้มีการวางแผนเดินหน้าในการขยายฐานลูกค้าแบบก้าวกระโดด เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด โดยมุ่งเป้าไปที่การออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ได้แก่ การออกผลิตภัณฑ์และแคมเปญส่งเสริมส่งเสริมการขายในกลุ่มรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฮบริด หรือ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งกำลังได้รับความนิยมและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะเห็นได้จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าได้ของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำต่าง ๆ ตลอดจนการเปิดสถานีบริการชาร์จไฟฟ้าที่เริ่มมีมากขึ้นและได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาเป็นโครงการในระยะยาว และด้วยกลยุทธ์ Data Analytics ที่แม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูลค้า จึงทำให้มั่นใจว่า ทุกผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่ และการพัฒนาแคมเปญส่งเสริมการขายของผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงใจและถูกเวลา รวมไปถึงจะส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อผ่านผู้แทนจำหน่ายรถพันธมิตรของลีสซิ่งกสิกรไทยมีแนวโน้มปิดการขายได้ง่ายขึ้น

ในอีกด้านหนึ่งลีสซิ่งกสิกรไทยจะมุ่งรุกตลาดสินเชื่อรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยทุกผลิตภัณฑ์ก็จะนำเอากลยุทธ์ Data Analytics มาใช้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุดและนำเสนอสิ่งที่ตรงใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ปักธงตั้งเป้ายอดครึ่งหลังของปีนี้ไว้ที่ 45,585 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่และสินเชื่อรถช่วยได้ 23,424 ล้านบาท และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 22,161 ล้านบาท

นายศาศวัต กล่าวว่า ในอนาคตของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทางออนไลน์ ที่ทำให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น จึงเกิดการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ ลีสซิ่งกสิกรไทยจะเร่งรุกในช่องทางนี้อย่างเต็มตัว โดยมีสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทยเป็นตัวนำ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อปรับสภาพคล่องของรายย่อย ใกล้เคียงกับสินเชื่อเงินสด

“เรามั่นใจว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลในปัจจุบันที่ผนึกกำลังร่วมกันกับช่องทางของธนาคารกสิกรไทย จะทำให้ลูกค้าทำธุรกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวกับสินเชื่อรถได้เพียงคลิกเดียว และสามารถให้บริการรวมถึงรองรับการขยายตัวที่รวดเร็วของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อผนวกรวมกับความสามารถในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าผ่านเทคโนโลยี Data Analytics ที่แม่นยำแล้วจะสามารถตอบโจทย์และสอดรับกับพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันที่ศึกษาข้อมูลสินเชื่อออนไลน์ก่อนตัดสินใจสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์”นายศาศวัต กล่าว

Advertisment